ไม่ต้องกังวลว่าถ้าพาน้องหมาน้องแมวหรือสัตว์เลี้ยงมาเที่ยวเชียงใหม่ แล้วจะไปพัก ไปนั่งชิลล์ที่ไหน เพราะเดี๋ยวนี้ธุรกิจบริการทั้งโรงแรมและร้านกาแฟที่นี่เปิดต้อนรับบรรดาคนรักสัตว์แบบเต็มที่ อย่างโรงแรมที่ให้ทั้งเจ้าของและน้องหมาพักในห้องเดียวกันมีทั้งบูติกโฮเทลหลากหลายสไตล์ ตั้งแต่โมเดิร์นสุดเก๋ อบอุ่นสไตล์ล้านนา เท่ ๆ แหวกแนว ไปจนถึงหรูหราแบบบาหลีผสมผสาน ส่วนร้านกาแฟก็เน้นที่โล่งกว้างให้น้องหมาได้เดินเล่นอย่างสบายใจ และอย่างที่รู้กันว่าร้านกาแฟที่เชียงใหม่จัดเต็มทั้งของหวานของคาวอยู่แล้ว งานนี้จัดให้กับ 4 โรงแรม และ 2 ร้านคาเฟ่ ชอบแบบไหนเลือกได้เลย
4 โรงแรมพักสบายข้างกายสัตว์เลี้ยง
1. Ketawa Stylish Hotel
พิกัด บำรุงราษฏร์ ซอย 2 เข้ามาทางเจริญเมืองซอย 1
โทรศัพท์ 053-302248, 083-9435959
Facebook Ketawa Stylish Hotel
www.ketawahotel.com
โรงแรมสไตล์โมเดิร์นคอนเทมโพลารีที่เปิดมานานกว่า 6 ปี แต่เพิ่งมาปรับเป็น Dog Friendly เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ด้วยความที่เจ้าของโรงแรมเลี้ยงน้องหมา เวลาเดินทางไปไหนมาไหนก็จะพาน้องหมาไปด้วย และเห็นว่าไม่ค่อยมีโรงแรมที่ให้พาน้องหมาเข้าพักด้วยมากเท่าไร จึงตัดสินใจเลือกโซนห้องชั้นล่างจำนวน 5 ห้อง เปิดให้บริการคนรักสัตว์เลี้ยงได้มาพักผ่อนแบบเต็มที่ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยต้องรับน้องเสือโคร่ง ทูนหัวของบ่าวมาแล้ว
ภายในห้องพักพื้นที่กว้างขวาง รองรับน้องหมาได้ทุกขนาด ตั้งแต่ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง อย่างพันธุ์ชิสุห์ ปอมเมอเรเนียน เฟรนช์ บลูด็อก ไปจนถึงขนาดใหญ่อย่างไซบีเรียนฮัสกี และอลาสกัน มาลามิวท์ ห้องพักมีให้เลือกทั้งเตียงคู่และเตียงเดี่ยว อีกทั้งยังมีเตียงนอนให้น้องหมา พร้อมด้วยจานน้ำจานข้าวเสร็จสรรพ
ภายในโรงแรมมีสนามหญ้าให้พาน้องหมาไปเดินเล่นได้ ทั้งสนามหญ้าเทียมสำหรับสุนัขขนาดเล็ก-กลาง และสนามหญ้าจริงสำหรับน้องหมาขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมีร้านค้าจำหน่ายสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงที่เลือกดีไซน์และคุณภาพมาอย่างดี ทั้งของเล่นใยธรรมชาติ เสื้อผ้า แถมยังมีบริการรับฝากดูแลสัตว์เลี้ยงตอนกลางวันฟรีอีกด้วย ค่าบริการห้องช่วงโลว์ซีซั่น 2,200 บาท ช่วงไฮซีซั่น 5,500 บาท พิเศษปีนี้ไม่มีชาร์ทเพิ่มสำหรับค่าสัตว์เลี้ยงเข้าพัก
2. 3B Boutique Bed & Breakfast
พิกัด 600 เมตรจากสี่แยกสนามบินไปทางหางดง ทางเข้าหมู่บ้านเฟื่องฟ้า ก่อนถึงปั๊มเอสโซ่
โทรศัพท์ 053-279430
www.3bchiangmai.com
ใครที่ชอบโรงแรมที่ให้บรรยากาศกันเองเหมือนอยู่บ้าน บูติกโฮเทลสไตล์ล้านนาแห่งนี้น่าจะถูกใจไม่น้อย ที่นี่เปิดห้องชั้นล่างจำนวน 4 ห้องไว้ต้อนรับนักเดินทางพร้อมสัตว์เลี้ยงด้วยความยินดี แต่ละห้องกว้าง 25 ตร.ม. ตกแต่งด้วยสีสันที่ต่างกันไป หลังห้องมีสวนไผ่ให้น้องหมาได้เดินเล่นและขับถ่าย
แต่ถ้าใครอยากได้สวนที่กว้างขึ้นก็จูงน้องหมาไปที่สวนหลังล็อบบี้ได้ ที่นั่นเป็นสวนครึ้ม มีโต๊ะและม้านั่งให้อ่านหนังสือพิมพ์หรือจิบกาแฟได้ด้วย หรือใครจะนั่งบริเวณชานหน้าห้องก็ได้ ก็ชิลล์ๆ ไปอีกแบบ เรียกได้ว่ามีมุมให้พักผ่อนกับสัตว์เลี้ยงตัวโปรดเต็มไปหมด แต่ที่นี่ขอสงวนสำหรับน้องหมาที่น้ำหนักไม่เกิน 20 กก. ซึ่งส่วนมากจะเป็นน้องหมาขนาดกลาง เช่น พุดเดิ้ล ปอมเมอเรเนียน ส่วนขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยมีลูกค้าพามาพักด้วยคือไซบีเรียนฮัสกี
ทางโรงแรมมีข้อกำหนดนิดหน่อยในเรื่องของความสะอาด คือถ้าผ้าปูที่นอนหรือผ้าม่านเปื้อนสกปรก จะต้องชาร์ทค่าเสียหายเพิ่ม ดังนั้นต้องดูแลน้องหมาให้ดี ค่าห้องช่วงโลว์ซีซั่นคืนละ 1,200 บาทขึ้นไป ส่วนไฮซีซั่นคืนละ 1,600-1,800 บาท ส่วนค่าพาน้องหมาน้องแมวมาพัก ช่วงโลว์ซีซั่นตัวละ 200 บาท/คืน ช่วงไฮซีซั่นตัวละ 300 บาท/คืน ที่นี่มีการอบละอองฆ่าเชื้อทุกๆ 2 เดือน ดังนั้นจึงรับประกันเรื่องความปลอดภัยต่อสุขภาพ
3. Sleepbox
พิกัด ถนนรัตนโกสินทร์ ห่างจากสนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ประมาณ 800 เมตร
โทรศัพท์ 088-2684280
Facebook Sleepbox Chiangmai
www.sleepboxthailand.com
ห้องพักสไตล์เก๋ที่เอาตู้คอนเทนเนอร์มาปรับเป็นห้องพัก เปิดบริการมาแล้ว 2 ปี มีห้องพักทั้งหมด 21 ห้อง ปรับเป็นห้องพักสำหรับคนรักสัตว์บริเวณชั้นล่างทั้งหมด 7 ห้อง โดยไม่จำกัดน้ำหนักหรือขนาดของสัตว์เลี้ยง ไม่มีการชาร์ทเพิ่ม ขอเพียงแต่อย่าส่งเสียงดังและรักษาความสะอาดให้ดี ถ้าทำสกปรก น้องหมาฉี่เลอะผ้าม่าน อาจโดนปรับได้
ห้องพักที่นี่ขนาด 18.5 ตร.ม. มีห้องน้ำในตัว ขนาดกะทัดรัดเหมาะกับคนที่ไม่ต้องการอะไรมาก อย่างวัยรุ่นที่ลุยๆ หน่อย บริเวณรอบโรงแรมมีสนามหญ้าให้พาน้องหมามาเดินรับลมรับแดด มีมุมให้นั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจ
ใกล้ๆ โรงแรมมีร้านกาแฟ สนามฟุตบอลหญ้าเทียม ร้านค้า และร้านอาหาร ทำเลอยู่ในเขตเมือง มีรถโดยสารผ่านไปมาเดินทางสะดวก ค่าบริการห้องช่วงวันจันทร์-พฤหัสบดี 770 บาท ศุกร์-อาทิตย์ 825 บาท
4. โรงแรมคชสีห์ธานี เชียงใหม่
พิกัดถนนราชภาคินัย ต.พระสิงห์ เลี้ยวจากกาดกลางเวียงเข้ามาประมาณ 400 เมตร
โทรศัพท์ 053-281950
www.kodchasri.com
บูติกโฮเทลสุดหรูที่ตกแต่งสไตล์คอนเทมโพรารี ผสมผสานเสน่ห์แบบล้านนาที่เจือวัฒนธรรม กับความงามของรีสอร์ทเขตร้อนสไตล์บาหลีได้อย่างลงตัว มีห้องพักทั้งหมด 39 ห้องเป็นห้อง Deluxe โดยแบ่งให้เป็นห้องพักสำหรับคนรักสัตว์ 10 ห้อง บริเวณชั้น 1 ที่มีระเบียงเปิดเชื่อมกับส่วนของพื้นที่สวนด้านหลังให้พาน้องหมาไปเดินเล่นได้สบายๆ
ภายในห้องพักขนาด 34 ตร.ม. ที่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าพัก เป็นห้องเตียงเดี่ยว เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พื้นปูด้วยกระเบื้องทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องความชื้นเหมือนห้องที่ใช้พรม อีกทั้งยังมีเครื่องฟอกอากาศให้เสร็จสรรพ
ทางโรงแรมอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าพักโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพียงแต่จำกัดน้ำหนักสัตว์เลี้ยงไม่เกิน 3 กก. และต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเนื่องจากห้องมีจำนวนจำกัด ราคาห้องพักอยู่ที่ 4,000-7,000 บาท
2 ที่กิน+เที่ยว แบบลั้นลา พาน้องหมาน้องแมวไปด้วย
1. Yellow Mango
พิกัดแถววัดร่ำเปิง ซอยวัดอุโมงค์หลัง มช.
เวลาเปิด-ปิด 10.00-17.30 น. ทุกวัน
โทรศัพท์ 088 268 6923
Facebook Yellow Mango
บ้านหลังสีเหลืองสไตล์ทัสคานีอันโดดเด่นในโซนวัดร่ำเปิงแห่งนี้ เป็นทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านที่สามารถพาน้องหมามาเที่ยวเล่นได้ด้วย ด้วยความที่อาณาบริเวณด้านนอกของร้านเป็นลานกว้าง มีต้นไม้ร่มรื่น และจัดโต๊ะที่นั่งแบบชิลล์ๆ เหมาะพาน้องหมาไปเดินเล่นมากๆ
แต่ใช่ว่าทางร้านจะสงวนโซนข้างนอกสำหรับน้องหมาเท่านั้น ภายในร้านและชั้นบนก็อนุญาตให้พาสัตว์เลี้ยงเข้าไปนั่งเล่นได้ด้วย ด้วยความที่โครงสร้างอาคารเป็นบ้านสไตล์อิตาเลียนคันทรีย์ที่โปร่งโล่ง รับลมแทบทุกด้าน จึงไม่มีปัญหาเรื่องกลิ่นอับ ใครพาน้องหมาไปที่ร้านอย่าลืมไปเล่นกับน้องเยลโล่ เฟรนช์ บลูด็อก วัย 1 ปี 4 เดือน ดาราประจำร้านด้วยนะ
2. Neo Cafe
พิกัด ช่างเคี่ยน ก่อนถึงค่ายลูกเสือสุเทพ
เวลาเปิด-ปิด 09.00-18.30 น. ทุกวัน
Facebook Neo Cafe’
ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติอันร่มรื่น มีคาเฟ่สไตล์โมเดิร์นปูนเปลือยสุดแนวหลบซ่อนอยู่ ใครที่อยากจะหลบหนีความวุ่นวายในเมือง หรือพาน้องหมาน้องแมวมาเดินเล่นสูดอากาศสดชื่นของป่าเขาลำเนาไพร แนะนำให้ขับรถบึ่งมาที่นี่เลย
นอกจากจะได้ผ่อนคลายแบบสบายๆ กับสัตว์เลี้ยงแสนรักแล้ว ยังได้ทานของอร่อยแบบจัดเต็ม ทั้งเครื่องดื่มเย็นๆ เครปผลไม้ ฮันนี้โทสต์ ปังเย็น อาหารจานเดียวแบบอิ่มท้องก็มีบริการ แต่ทางร้านอนุญาตให้น้องหมาน้องแมววิ่งเล่นได้ในโซนเอ้าท์ดอร์เท่านั้น ส่วนโซนชั้นลอยในร้านขอสงวนไว้ แต่แค่พื้นที่ข้างนอกก็เรียกว่าสนุกได้เต็มอิ่มแล้ว