“เส้นวัดอุโมงค์-วัดร่ำเปิง” ในอดีตหลายท่านอาจจะคุ้นหูกับสถานที่ปฏิบัติธรรมชื่อดังเมืองเชียงใหม่ แต่ใครจะรู้ว่าถนนเส้นนี้ในปัจจุบันนั้นคึกคักไปด้วยผู้คนเป็นจำนวนมาก ทั้งนักเรียน นักศึกษา นักท่องเที่ยวที่ต่างแวะเวียนมาเที่ยวกันอย่างมากมาย เพราะไม่ต้องเดินทางไกล และบวกกับปัจจุบันมีสถานที่ให้บันเทิงเริงใจอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านขายของแฮนด์เมด วัด สถานที่ปฎิบัติธรรม ฯลฯ โครงการพัฒนาการท่องเที่ยวในตัวเมือง (Citylife tourism :CLT) #Chiangmainess จึงร่วมกับ รีวิวเชียงใหม่พาแฟนๆไปเที่ยวถนนเส้นนี้ เริ่มตั้งแต่เส้นถนนสุเทพ หลัง มช. ว่าแต่ว่าสถานที่ที่เราจะพาไปนั้น จะมีที่ไหนกันบ้าง ตามมาได้เลย
ดู เส้นวัดร่ำเปิง ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า
1. Maew Moth Cat Cafe’
เวลาเปิด-ปิด : 10.00-20.00 น. หยุดวันอังคาร
โทร : 095-4468141
เมื่อเราเริ่มต้นเดินทางกันไม่ถึง 100 เมตรก็จะเจอ “Maew Moth Cat Cafe’” คาเฟ่น้องแมวชื่อดังหลังมช. ที่เพิ่งเปิดตัวได้เมื่อไม่กี่เดือนมานี้ แต่ด้วยความน่ารักของน้องแมวเหมียวจึงทำให้มีลูกค้าต้องต่อคิวรอเพื่อที่จะเข้าไปชื่นชมความน่ารัก ขี้อ้อน ของน้องแมวที่นี่กันอย่างล้นหลาม ถึงขนาดได้รับการยืนยันจากเจ้าของว่า “ลูกค้าที่นี่ค่อนข้างเยอะครับ โดยเฉพาะในวันเสาร์อาทิตย์ถึงขนาดที่ว่าต้องโทรจองคิวก่อน ไม่งั้นไม่ได้เข้า มีบางวันลูกค้ายืนรอเข้าเต็มหน้าร้าน ดังนั้น ถ้าจะมาควรจองก่อนดีกว่าครับ และถ้ามาแล้วขอช่วยปฎิบัติตามกฎของทางร้านหน่อยนะครับ ถ้าอยากเห็นความน่ารักของน้องนานๆ” ส่วนไอเดียของการเปิดที่นี่ “ผมเป็นคนรักแมวอยู่แล้วครับ และบวกกับเคยเห็นคาเฟ่แบบนี้ที่กรุงเทพ จึงมาเปิดที่เชียงใหม่บ้าง” งานนี้ใครที่เป็นสาวกของเหมียวจอมซนก็อย่าลืมแวะไปเล่นกับน้องๆได้ นอกจากนี้ยังมี กาแฟและเบเกอรี่จำหน่ายด้วย
2. 31st Century Museum of Contemporary Spirit (ศตวรรษ ที่ 31)
- เวลาเปิด-ปิด : 12.00-18.00 น. หยุดวันจันทร์
- โทร : 053-811555
“31st Century Museum of Contemporary Spirit” สถานที่แสดงศิลปะภายในตู้คอนเทนเนอร์ที่เรียงตัวเป็นเลข 31 หลายท่านอาจจะมีคำถามอยู่ในใจว่าที่แห่งนี้คืออะไร สร้างมาทำไม แท้จริงแล้ว ที่นี่สร้างมาจากแนวความคิดของ “คามิน เลิศชัยประเสริฐ” ศิลปินชื่อดังที่อยากสร้างผลงานทางศิลปะ ที่มีชื่อว่า “ก่อนเกิด หลังตาย” จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลผลงานของที่นี่พบว่า “สำหรับผลงานภายในตู้คอนเทนเนอร์นี้ก็จะมีการผลงานมากกว่า 10 ชิ้นซึ่งจะมาจากศิลปินทั่วโลก ภายใต้แนวคิด จิตวิญาณของเราคือศิลปะของเราและร่างกายของเราคือพิพิธภัณฑ์ที่แท้จริง ซึ่งจุดประสงค์ของเราก็อยากให้ผู้คนมาชมงานศิลปะได้รับรู้ถึงวิญาณของงานศิลปะที่จิตรกรได้สร้างขึ้น” นอกจากที่นี่จะเป็นที่แสดงงานศิลปะแล้ว ยังเป็นสถานที่รองรับผู้ที่มีจิตอาสาอยากสอนงานศิลปะแก่บุคคลทั่วไปโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย
3. วัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม)
สถานีต่อมา เมื่อเราเข้ามาประมาณ 1 กิโลเมตร จะเจอกับ “วัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม)” ซึ่งความบันเทิงของที่นี่จะเป็นแบบสงบจิตสงบใจ ใครร้อนมารับรองเย็นกลับไปแน่นอน เพราะมีต้นไม้ร่มรื่น เอ้ย ไม่ใช่! เพราะเป็นที่สงบจิตสงบใจต่างหาก นอกจากนี้ยังมีอุโมงค์ที่ใครมาแล้วต้องกราบไหว้พระพุทธรูปที่ประดิษฐสถานอยู่ภายใน และองค์พระเจดีย์ที่ตั้งอยู่บนด้านบนอุโมงค์ ซึ่งเป็นเจดีย์ทรงระฆังหรือที่เราคุ้นเคยกันว่าเจดีย์ทรงกลม คาดว่าเป็นศิลปะที่สร้างขึ้นในช่วงพุทธศตวรรษที่ 19 เมื่อทำบุญแล้วสามารถเดินออกไปให้อาหารปลาที่อยู่ด้านหลังได้ด้วย ใครที่ชื่นชอบการเข้าวัดก็แวะไปที่แห่งนี้กันได้
4. เวิ้งมาลัย
- เวลาเปิดปิด : 11.00-18.00 น. หยุดทุกวันอังคารและพุธ เฉพาะฤดูฝน
จากนั้นก็ขับมาอีกประมาณ 500 เมตร ก็จะมาถึง “เวิ้งมาลัย” เป็นสถานที่ที่มีทั้งร้านกาแฟและโชว์รูมขายของแฮนด์เมดอยู่ด้วยกัน จากการสอบถามพี่มาลัย เจ้าของร้าน ได้รับคำตอบว่า “สำหรับเวิ้งนี้เป็นบ้านของพี่เอง ส่วนชื่อก็มาจากการเรียกเล่นๆในกลุ่มเพื่อนว่าเวิ้งและบวกกับชื่อพี่ จึงใช้ชื่อนี้ซะเลย และเนื่องจากพื้นที่ที่นี่ค่อนข้างเยอะ พี่จึงชวนเพื่อนๆ มาร่วมเปิดร้านด้วยกัน” หลังจากที่เดินสำรวจรอบๆ พบว่าว่าที่นี่จะเน้นขายของแฮนด์เมดที่เจ้าของออกแบบเองเป็นส่วนใหญ่ มีทั้งโชว์รูมเล็กๆของแบรนด์ Communista ขายเสื้อผ้า กระเป๋า สินค้าตกแต่งบ้าน และก็ยังมี Paper Spoon ร้านกาแฟและเบเกอร์รี่โฮมเมด Hand Room ร้านขายเสื้อผ้าเด็ก และ จินตนา ร้านขายของตกแต่งกระจุ๊กกระจิกสไตล์นิ่งๆ เป็นส่วนใหญ่
5. สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าเชิงดอยสุเทพ
มาต่อกันที่ความบันเทิงแบบฉบับธรรมชาติ ออกจากเวิ้งมาลัยประมาณ 5 นาที เราก็จะถึง “สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าเชิงดอยสุเทพ” ที่แห่งนี้เป็นสวนสัตว์ในป่าขนาดย่อมเลยก็ว่าได้ เพราะจากการที่เราสอบถามคุณพี่เจ้าหน้าที่ก็ได้ข้อมูลว่า “สำหรับที่นี่ก็จะสัตว์หลายชนิดครับทั้ง นกยุง นกแก้ว เนื้อทราย กวางป่า ละมั่ง วัวแดง ฯลฯ โดยสัตว์ที่นี่บางชนิดเราก็จะปล่อยไว้ตามธรรมชาติ นักท่องเที่ยวก็สามารถมาเยี่ยมชมได้ตลอด ไม่มีค่าใช้จ่าย และถ้าหากจะขอเจ้าหน้าที่เป็นไกด์ก็ติดต่อได้ครับ” เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เราสามารถใกล้ชิดธรรมชาติได้แบบง่ายๆ ใครที่อยากเปิดประสบการณ์แปลกใหม่ที่นี่ไม่ควรพลาด
6. มงกุฎล้านนา หมู่บ้านญี่ปุ่นเชิงดอยสุเทพ
ขับรถเลยมาอีกนิดเราก็เจอสิ่งก่อสร้างรูปทรงแปลกอยู่ทางด้านหน้า ที่นี่คือ “โครงการมงกุฏล้านนา” นั่นเอง โครงการนี้จากบทสัมภาษณ์คุณชวการ อัศวมหาศักดิ์ดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท มงกุฎล้านนา จำกัด ในหนังสือพิมพ์มติชนพบว่า “โครงการมงกุฏล้านนา เป็น Pilot Project เพื่อสร้าง Community ของคนญี่ปุ่นที่มาอยู่แบบ Long stay มีคอนเซ็ปต์หลักที่จะ ไม่ค้ากำไรเกินควร ทุกสิ่งในโครงการ ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม ทาวน์เฮ้าส์ หรือบ้านเดี่ยว เกิดขึ้นจากการหารือพูดคุยกับคนญี่ปุ่นหลายๆ กลุ่ม ที่มีความต้องการแตกต่างกันไป” ปัจจุบันยังไม่มีการก่อสร้าง ใครที่ผ่านไปมาย่านนั้นสามารถแวะไปดูสถาปัตยกรรมสวยๆกันได้
ขอบคุณข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์มติชน
7. Yellow Mango
- เบอร์โทร : 086-1899960
- เวลาเปิด – ปิด : 10.00 – 20.00 น. ทุกวัน
“Yellow Mango” คาเฟ่บ้านเหลืองที่เน้นการตกแต่งสไตล์ทัสคานีสีสันโดดเด่นแปลกตา ด้วยบรรยากาศที่รายล้อมด้วยต้นไม้ทำให้ร่มรื่นเหมาะสำหรับผู้ที่อยากจะหามุมสงบๆจิบกาแฟแก้วโปรด จากการสอบถามคุณเฟม เจ้าของร้าน “สำหรับร้านนี้ผมเพิ่งเปิดได้เพียงไม่กี่เดือนเองครับ ดังนั้นการตกแต่งเราก็จะค่อยตกแต่งไป ด้านบนก็ยังไม่เสร็จดี แต่สำหรับท่านที่อยากมาลองนั่งชิลที่นี่ดู ผมก็ต้อนรับทุกคนครับ” เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งร้านที่น่าเข้าไปเยี่ยมชม เพราะมีมุมสวยๆให้เลือกถ่ายรูปได้หลากหลายและยังมีเมนูพิเศษอย่าง Yellow Mango Indy Coffee ที่ท่านสามารถเลือกผสมรสชาติกาแฟได้ตามต้องการและเบเกอรี่โฮมเมดอีกหลายเมนูคอยเสิร์ฟท่านอยู่
8. โครงการบ้านข้างวัด
- เวลาเปิดปิด : 10.00-17.00 น. หยุดทุกวันจันทร์
สำหรับสถานีนี้ใครที่ขับผ่านคงจะสงสัยว่า มันคือโครงการอะไร มันคือ “โครงการบ้านข้างวัด” นั่นเอง ซึ่งคุณบิ๊ก ผู้คิดค้นและออกแบบโครงการนี้บอกว่า “โครงการนี้ผมค่อยๆสร้างมันมาเกือบ 3 ปีครับ แต่เพิ่งจะเปิดเมื่อ 3 เดือนนี้เอง ที่นี่จะเป็นเหมือนชุมชนเล็กๆ ที่เราต่างถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน มีอะไรแบ่งปันกันภายในบ้านและลูกค้า จะสังเกตุจากการออกแบบบ้านผมจะออกแบบให้มีหน้าต่างทุกด้าน และมีลานสำหรับทำกิจกรรมร่วมกัน เพราะผมอยากให้เหมือนกับสังคมสมัยเก่าที่ทุกคนต่างมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน” จากการเดินสำรวจรอบๆ พบว่าที่นี่มีบ้านหลายหลังเปิดขายของแฮนด์เมดไม่ว่าจะเป็น เซรามิก ของตกแต่งบ้านน่ารักๆ ร้านกาแฟ ห้องสมุด ฯลฯ มีร้าน Orn The Roses/ Tiny Space/ ได้ สตูดิโอ/ ภาชานะ/ มาหาสมุด/ Bookoo Studio/ Jibberish/ The Old Coffee นอกจากนี้ยังมีเพิ่มเติมอีกหลากหลายร้าน
9. วัดร่ำเปิง (ตโปทาราม)
หากพูดถึงสถานที่สงบจิตสงบใจ คงจะหนีไม่พ้น “วัดร่ำเปิง” แห่งนี้ ผู้คนหลากหลายจากทั่วสารทิศมานั่งวิปัสสนากรรมฐานกันอย่างไม่ขาดสาย เพราะที่นี่มีค่ายคุณธรรมจัดขึ้นอยู่เสมอ นอกจากนี้บรรยากาศในวัดที่ดูร่มรื่น ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ จึงทำให้ผู้มาที่วัดแห่งรู้สึกถึงจิตใจที่สงบ เช่นเดียวกับ น้องด้าย สาวน้อยนักศึกษา มช. เธอมักมานั่งที่นี่เป็นประจำในช่วงปิดเทอม บอกเรากับว่า “หนูชอบมานั่งที่นี่ค่ะ เพราะรู้สึกสงบและตัดขาดจากโลกภายนอกดี” และนอกจากนี้ภายในวัดยังมีอาคารไว้สำหรับรองรับผู้ที่มานั่งวิปัสสนากรรมฐานอีกด้วย
10. ร้านก๋วยเตี๋ยวปายฟ้า
- ที่ตั้ง : หน้าวัดร่ำเปิง
- เวลาเปิด – ปิด : 09.30 – 16.00 น. ทุกวัน
“ปายฟ้า” ร้านก๋วยเตี๋ยวสุดคลาสสิคที่เปิดขายมานานกว่า 5 ปี ลุงเจ้าของร้านบอกว่า “ก๋วยเตี๋ยวของลุงจะเป็นก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำน้ำใสครับ น้ำต้มยำของที่นี่จะเป็นสูตรจีนแต้จิ๋วรสเข้มข้นถึงใจ” นอกจากก๋วยเตี๋ยวยังมีเมนูข้าวที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นข้าวคลุกกะปิ ข้าวหมูอบ ข้าวหมูแดง ฯลฯ ในส่วนของก๋วยเตี๋ยวหลังบ่ายสองโมงเป็นต้นไป ลุงจะฟรีกระดูกให้ด้วย ส่วนราคาเริ่มต้นที่ 35 บาท พอถามถึงสไตล์การตกแต่งร้าน ลุงบอกว่า “ลุงชอบของเก่าครับ มีอะไรสวยๆลุงก็เอามาตกแต่งหมดอ่ะครับ”
11. ร่ำเปิงกาแฟ
- เบอร์โทร : 053 – 329092
- เวลาเปิด – ปิด : 10.00 – 17.00 น. หยุดทุกวันอังคาร
มาต่อกันที่สถานีต่อไป “ร่ำเปิงกาแฟ” ร้านกาแฟบ้านไม้หลังใหญ่ที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับคอกาแฟที่ชื่นชอบบรรยากาศที่เป็นกันเอง เป็นอีกร้านหนึ่งที่อยากแนะนำ จากการสอบถาม พี่ชวด นักร้องนำ วงสุดสะแนน และบาริสต้าประจำที่นี่ “ร้านกาแฟนี้เปิดมา 7 ปีแล้ว เพราะผมชอบดื่มกาแฟพร้อมกับบรรยากาศ ผมจึงเปิดมันขึ้นมาซะเลย และราคาผมก็ตั้งไม่เหมือนใคร อย่าง Espresso เริ่มต้นที่แก้วละ 28 บาทเท่านั้น” ถือว่าเป็นอีกหนึ่งร้านที่มีเมนูให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็นกาแฟ ชา รวมถึงเบเกอรี่โฮมเมดรสชาติต่างๆ ใครชอบแบบไหนก็สั่งมาชิมกันได้เลย
12. ร้านศรีพยงค์ทะเลเผา
- เวลาเปิด-ปิด : 16:00 – 22:00 ปิดทุกวันที่ 16
- เบอร์โทร : 081 603 5077
มาถึงสถานีที่เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบอาหารทะเล “ศรีพยงค์ทะเลเผา” ร้านอาหารทะเลขวัญใจเด็กมหาลัย เพราะนอกจากเรื่องของความสด สะอาด แล้วราคาก็ไม่แพง เริ่มแรกที่เปิดร้าน “เฮียแฉ่ง” ขายเพียงจานละ 29 บาท สาเหตุหนึ่งมาจากต้นทุนที่สามารถควบคุมได้อย่าง กุ้งที่ใช้ประกอบอาหารอยู่ในร้านเป็นกุ้งที่มาจากบ่อเลี้ยงของทางร้านเอง จึงทำให้ราคาไม่สูงมาก แต่ในปัจจุบันได้มีการปรับขึ้นบ้างตามสภาพของเศรษฐกิจ แต่ก็ไม่ได้ปรับราคาสูงมากเพราะว่าความต้องการหลัก ของทางร้านคือต้องการขายในราคาที่นักศึกษาจะมาทานอาหารทะเลได้ เมนูแนะนำของทางร้านเป็นพวก “อาหารทะเลเผา” ปล. พนักงานที่ร้านส่วนมากจากต่างประเทศ ควรสั่งช้าๆชัดๆจะได้เข้าใจตรงกัน
13. ร้านลาบลุงน้อย
- เบอร์โทร : 089 – 8553934, 081 – 8843400
- เวลาเปิด – ปิด : 12.00 – 22.00 น. ทุกวัน
“ลาบลุงน้อย” ร้านอาหารพื้นเมืองที่เปิดขายมานานกว่า 15 ปี ผู้คนละแวกนั้นและเด็ก มช. รู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเมนูอาหารของที่นี่เรียกได้ว่า ซื้อง่าย กินง่าย ขายคล่อง มีทั้งลาบเมือง เนื้อย่าง ไส้ย่าง ส้มตำ รวมถึงอาหารตามสั่งต่างๆ ส่วนราคาก็ย่อมเยาเริ่มต้นที่ 35 บาทเท่านั้น บรรยากาศภายในร้านจะเป็นเพิงเล็กๆอยู่หน้าบ้านของลุงน้อย ใครที่ชอบเปิบอาหารเหนือบ้านๆ พร้อมจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ร้านนี้น่าแวะจริงๆ
14. Cotton Hut
- เบอร์โทร : 081-6715614
- เวลาเปิด – ปิด : 08.00 – 18.00 น. ทุกวัน
ปิดท้ายด้วย “Cotton Hut” ร้านอาหารสไตล์ Kitchen Home เล็กๆ มีโต๊ะให้เลือกนั่งเพียง 5 โต๊ะเท่านั้น นอกจากนั้นเมนูอาหารก็มีให้เลือกทานไม่กี่อย่าง แต่ความอร่อยการันตีจากลูกค้าทั้งไทยและเทศว่า อร่อยเหนือชั้น! จากการสัมภาษณ์เชฟน้อง ผู้มีประสบการณ์ทำอาหารสไตล์อังกฤษมาเกือบทั้งชีวิต เกี่ยวกับการขายเพียง 5 โต๊ะต่อวัน “ผมทำร้านใหญ่มาเยอะแล้วครับ ด้วยความที่สุขภาพไม่เอื้ออำนวย ผมทำแค่นี้พอแล้ว อยากให้คนกินมีความสุขมากกว่า ไม่ได้กำไรไม่เป็นไร ผมพอแล้ว” เรียกได้ว่าเป็นคำที่กระชากใจจริงๆ อาหารของที่นี่มีสปาเกตตี้ สเต็ก แฮมเบอร์เกอร์ ข้าว ฯลฯ ราคาเริ่มต้นที่จานละ 50-60 บาทเท่านั้น ถ้าเทียบกับปริมาณถือว่า คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม! ใครที่อยากลองชิมอาหารเจ้านี้ แนะนำให้โทรไปก่อนจะดีที่สุด เพราะจะได้ไม่ต้องรอนานและเมื่อไปถึงก็ทานได้ทันที
จบสิ้นการพาตะลุยเที่ยวเส้นร่ำเปิง หากใครวางแผนจะเที่ยวสถานที่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก สามารถแวะมาเที่ยวถนนเส้นนี้กันได้ หากมีร้านไหนที่เป็นร้านเด็ดในดวงใจของพี่น้องที่เราขาดตกบกพร่องกัน ไปบ้าง ก็อย่าลืมแวะมาเม้นท์มาแชร์ให้เราได้รู้ตามช่องคอมเม้นท์ด้านล่าง หรือ
เจ๋งจะตามไปรีวิวอย่างทันท่วงที