“Story House” บ้านหลังเล็กที่ใครหลายคนต่างขนานนามให้ว่าเป็น ” Coffee Prince เมืองไทย ” ซี่งใครจะรู้ว่าร้านนี้ซึ่งเป็นร้านน้องใหม่ จะมีเรื่องเล่ามากมายภายในร้าน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล่าของหุ้นส่วนร้านทั้ง 2 คน ที่ต่างไม่เคยทำเบเกอรี่หรือกาแฟมาก่อน แต่เพราะด้วยความชื่นชอบในการทำอาหารของ ตุ้ย หญิงสาวชาวไต้หวัน หน้าตาจิ้มลิ้ม บวกกับความต้องการที่อยากเปิดกิจการตัวเองของ หลง จึงเปิดร้านนี้ขึ้นมาเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน
บรรยากาศภายในร้านที่เน้นดูอบอุ่น และดูเป็นกันเอง
โดยในส่วนบรรยากาศของร้าน ก็จะมี 2 ชั้น ซึ่งชั้นบนจะเน้นการตกแต่งให้เหมือนนั่งอยู่ ห้องใต้หลังคา ที่เมื่อเราได้ขึ้นไปก็สามารถทำให้หวนนึกถึงเรื่องเล่าในวัยเด็กได้ ส่วนชั้นล่างก็จะเป็นบาร์ทำเครื่องดื่ม ที่มีเรื่องเล่าของชีวิตซูโม่ หนึ่งในเจ้าของร้านที่ไม่เคยทำกาแฟมาก่อน แต่ปัจจุบันนี้ที่นี่คือบ้านหลังที่สองของเขา
และนอกจากนี้ยังมี “สะพานแห่งความรัก ” ที่คู่รักหลายคู่ที่ได้เข้ามา ก็สามารถมาคล้องกุญแจกันได้ที่นี่ ซึ่งก็เป็นการสื่อสารเรื่องราวความรักของแต่ละคู่ได้เป็นอย่างดี และนอกจากนี้เขาก็มีมุมให้ติดป้าย “ทันโชกุ” ซึ่งเป็นการเขียนเรื่องราวต่างๆในชีวิตเพื่อขอพรกับดวงดาว ให้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่เราคาดหวังไว้ เห็นไหมละว่าร้านนี้เขาเป็นบ้านที่มีเรื่องเล่าสมชื่อจริงๆ
เต็มอิ่มกับเรื่องราวในร้านจนหนำใจแล้ว คราวนี้ก็มาถึงเวลาลิ้มรสอาหารของที่นี่กันบ้าง เรามาเริ่มกันที่ “หมูชีสลาวา” ซึ่งเป็นเมนูที่เรียกได้ว่าเป็น Signature ของทางร้านเลยก็ว่าได้ เพราะหมูนั้นมีความกรอบนอกนุ่มใน ยิ่งกินกับชีสที่เป็นเหมือนลาวาที่กำลังประทุอยู่ข้างใน ยิ่งวางช้อนไม่ลง ราคาจานละ 88 เท่านั้น
ทานอาหารคาวมาแล้วก็ต่อด้วยอาหารหวานกันบ้าง นี่เลย “มัชชะลาวา” เมนูสุดสร้างสรรค์ของเชฟตุ้ย ที่ใช้แป้งอบจนนุ่มหอมได้ที่ และสอดไส้ด้วยซอสชาเขียวรสเข้ม จากนั้นเสิร์ฟด้วยไอศกรีมชาเขียวเพื่อตัดรสชาติความหวานของลาวา ถือว่าเป็นเมนูสุดรังสรรที่ไม่ควรพลาดอีกหนึ่งเมนู และนอกจากนี้ยังมียังมีสตรอว์เบอรี่ลาวา บลูเบอร์รี่ลาวา เมล่อนลาวาและบานาน่าลาวาในราคา 158 บาท ส่วนช็อคลาวาราคา 138 บาทเท่านั้น
ต่อกันด้วย “กรีนนี่มัทฉะ” หลายท่านอาจสงสัยว่า คือ เบเกอร์รี่ชนิดไหน แท้จริงแล้ว คือ บราว์นี่รสชาเขียวนั่นเอง ซึ่งเมนูนี้มีความพิเศษอยู่ที่บราว์นี่ที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆของชาเขียว บวกกับความหนึบๆนิดๆ ของเนื้อแป้ง เสิร์ฟพร้อมกับไอศกรีมชาเย็นที่ทางร้านทำเอง ซึ่งถือว่าเป็นความลงตัวของญี่ปุ่นและไทยได้เป็นอย่างดี ราคา 128 บาท
ในส่วนของเครื่องดื่มที่ไม่ควรพลาด คือ “ Affrogato ” ซึ่งก็จะเสิร์ฟเอสเพรชโซ่ 1 ช็อต มาพร้อมกับไอศกรีมชาเย็น ซึ่งเมื่อเราจะลิ้มลองก็เทเอสเพรสโซ่ลงไปในไอศกรีม ทิ้งระยะเวลาสักนิด พอไอศกรีมละลายก็ตักขึ้นมาพร้อมกับจิบกาแฟไปด้วย ยิ่งทำให้กลิ่นของกาแฟและชาเย็นเกิดความลงตัวเป็นอย่างมาก ใครอยากลิ้มรสต้องลองสั่งมาดูได้ ราคา 88 บาท
ปิดท้ายด้วย “Berry Bang ” ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่นำมาปั่นจนได้ที่ เสิร์ฟพร้อมกับบลูเบอร์รี่และสตรอเบอร์รี่สด ซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูที่สามารถเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี ราคา 108 บาท
ตุ้ยและหลง เจ้าของหนุ่มหล่อสาวหมวย
และนอกจากนี้ทางร้านก็ยังมีเมนูเค้ก และอาหารอีกมากมายหลายเมนูให้เลือก ใครที่ชอบบรรยากาศในร้านที่เป็นกันเอง บวกกับรสชาติอาหารที่อร่อยไม่แพ้ใคร ก็แวะไปร้านนี้กันได้ที่โครงการ 41 park ซอยกองบิน 41 กันได้เลย
- Info : Story House
- ที่ตั้ง : โครงการ 41 park ซ.กองบิน
- เวลาเปิดปิด : 11:00-22:00 น. หยุดวันอังคาร
- เบอร์โทร: 081-2988909 / 088-2665719
ดู Story House ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า
ถ้าหากใครมีร้านเด็ดสะระตี่ที่โดนใจร้านไหนก็สามารถแนะนำเจ๋งเข้ามาได้ อย่าลืมแวะมาเม้นท์มาแชร์ให้เจ๋งได้รู้ เจ๋งจะได้ตามไปรีวิวอย่างทันท่วงที
