ช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่โรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศนั้นเริ่มที่จะเปิดเทอมแล้วซึ่งเมื่อมองเห็นเด็กๆ ที่ใส่ชุดนักเรียนเดินไปเดินมามันก็ทำให้เด็กมหาลัยหรือคนวัยทำงานอย่างเราอดคิดถึงวันวานและอดีตของตัวเราเอง เพื่อนสนิท หรือ คนที่เราแอบชอบขึ้นมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย ว่าช่วงนั้นเป็นช่วงที่มีความสุขขนาดไหน ไปโรงเรียน ไปทำอะไรกันบ้าง เตะบอล โดดเรียน แกล้งป่วย นินทาครู อะไรแบบนี้ซึ่งเชื่อว่าบางคนอาจจะไม่เคยทำ บางคนทำบางอย่าง แต่ว่าอย่างผมเนี่ย “ทำมาครบเลย” 5555 (นักเรียนดีเด่นนะจ๊ะ) จะบอกให้ และอีกกิจกรรมหนึ่งที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คือ การออกมาหาอะไรกินที่นอกโรงเรียนในช่วงหลังเลิกเรียน ทั้งๆที่บางโรงเรียนก็ประกาศห้ามนะว่า ห้ามออกมากินอะไรที่นอกโรงเรียน แต่ใครจะสนล่ะ เพราะในเมื่อของกินจากร้านต่างๆ ที่อยู่รอบโรงเรียนนั้น มันล้วนแต่อร่อยกว่าที่ขายอยู่ในโรงเรียนไปซะแทบทุกร้านเลยนี่น่า!
ว่าแล้วงานนี้ผมจึงลงไปเดินสำรวจว่า รอบโรงเรียนไหน มีอะไรกินบ้าง อร่อยจริงมั้ย ซึ่งข้อมูลต่างๆ ก็จะเป็นข้อมูลที่ได้มาจากน้องๆ นักเรียนแถวนั้นแหละ ซึ่งมันอาจจะไม่ตรงกับยุคของท่านผู้อ่านทั้งหลาย แต่ว่าสำหรับเด็กสมัยนี้ร้านพวกนี้แหละ โดนใจ!! (มีอร่อยหน้าโรงภาค 2 ต่อนะ คลิ๊ก )
1.ย่านเด็กปรินส์ฯ
ว่าแล้วเราก็มาเริ่มกันที่โรงเรียนของเด็กเลือดน้ำเงิน-ขาว ที่หน้าตาดีกันดีกว่า (ผมไม่ได้อวยโรงเรียนนี้เป็นพิเศษนะ บอกเลยเรื่องจริงทั้งนั้น 555) มาถึงโรงเรียนปรินส์ทั้งที แน่นอนว่าของกินที่ขึ้นชื่อสุดๆ ของที่นี่ก็คงหนีไม่พ้นลูกชิ้นทอดเจ้าดังอย่าง ร้าน “ลุงสวนลูกชิ้นทอด” เจ้าของหม้อน้ำจิ้มร่วมสาบานที่หลายคนรู้จักและเคยไปร่วมสาบานกันมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เชื่อว่าถ้าเป็นนักเรียนปรินส์ฯทุกคนคงรู้จักเป็นอย่างแน่นอนครับ (สมัยผมสั่งกินจะสั่งกินแบบโบ้สอง กรอกบาท ซึ่งในปัจจุบัน ลูกชิ้น(จัม)โบ้ ไม่มีขายแล้วนะ รุ่นเก่าๆ อย่าไปสั่งนะครับเดี๋ยวเด็กๆ แถวนั้นจะงงเอา 555) หรือใครชอบกินลูกชิ้นทอดกรอบๆต้องร้านนี้เลย “ลูกชิ้นทอดป้าจุ๋ม” แกขายมานานเกือบ 20 ปีแล้วนะ มีทั้งลูกชิ้นหมู เนื้อ ปูอัด ไส้กรอกชีส และทอดมัน ฯลฯ ราคาก็ลูกละ 1-3 บาทเท่านั้น ส่วนน้ำจิ้่มก็มีทั้งหวาน เผ็ด ซอสพริก จิ้มทีมิดหม้อยังได้เลย
หลังจากที่กินลูกชิ้นทอดกันแบบสมใจแล้วก็มาต่อกันที่ร้านนี้เลยกับ “ป้านิดสุกี้” สุกี้รสเด็ดประจำย่านนี้ที่เป็นที่ชื่นชอบของเด็กปรินส์หลายๆ คนด้วยเหตุที่สั่งแล้วใช้เวลาในการรอคอยเพียงน้อยนิด แถมยังรสชาติดีอีกต่างหาก น้ำจิ้มสุกี้ก็มีให้เติมได้เองเลย ถ้าอยากนั่งที่ร้านมีโต๊ะให้นั่ง แต่ถ้ารีบไปก็สั่ง-เติม-แล้วก็เดินไป กินไป ก็ได้ไม่ว่ากัน แต่ระวังมันหกใส่เสื้อนะ
อีกเจ้าหนึ่งที่กำลังมาแรงของแถวนี้ ซึ่งท่านผู้อ่านหลายๆ คนที่จบจากที่นี่ไปเกิน 5 ปี คงไม่รู้จักกันอย่างแน่นอนกับร้าน “ไก่ทอดสมใจเรา” ไก่ทอดร้อนๆที่เป็นที่ถูกอก ถูกใจของเด็กๆ เป็นไก่ทอดที่สมดั่งใจเราหวังไว้ สาเหตุมาจากการหมักไก่ด้วยสูตรลับของร้าน ที่ไม่ใช้ทั้งผงชูรสและสีผสมอาหาร จากนั้นก็ทอดลงไปในน้ำมันร้อนๆ จนออกมาเป็นไก่ทอดรสเด็ดสมใจเรานั่นเอง!
ทานอะไรกันมาแล้ว ทีนี้มาถึงทีของ โรตีหยอดเหรียญ ซึ่งก็คือโรตีสายไหมดีๆนี่เอง ตอนเด็กผมจำได้ว่าหยอดไปหนึ่งบาทก็ได้โรตีสายไหมมาหนึ่งบาท แหม่! มันช่างน่าเศร้าใจจริงๆ เพื่อนผมบางคนหยอด 1 บาทได้มา 3 บาท บางครั้ง 5 บาทยังดี ดู๊ดู! ดูมันทำ งานนี้ใครชอบลุ้น ก็เตรียมเหรียญไปหยอดกันให้สะใจได้เลย
2.ย่านเด็กดาราฯ
ออกมาจากโรงเรียนปรินส์ไม่ไกลเพียงแค่ 500 เมตรเราก็จะมาถึงย่านของหนุ่มกางเกงดำ สาวกระโปรงแดง นั่นคือ ย่านโรงเรียนดาราวิทยาลัยนั่นเอง เด็กดาราเค้าบอกมาว่า ถ้าโรงเรียนปรินส์มี “ลุงสวน” ที่ดาราก็มี “ลูกชิ้นทอดป้าปุ๋ย” ผมอาจจะพูดได้ว่า ป้าปุ๋ยแกเป็นตัวเก๋า ในเรื่องลูกชิ้นทอดของเชียงใหม่ก็ได้เพราะว่าแกขายมาแล้วกว่า 50 ปี ลองคิดดูว่าเก๋าไม่เก๋า วันนั้นผมบังเอิญแวะไปซื้อแกบอกผมมาว่า “เหลือแต่ลูกชิ้นหมูนะ จะเอาอะไรสั่งมา?” (แหม๋ป้าครับ! ผมก็ต้องสั่งลูกชิ้มหมูแน่นอนล่ะครับ ขืนทะลึ่งสั่งอย่างอื่นมีหวังโดนจบกดน้ำมันแน่เลย 555) และถ้าหิวน้ำก็สั่งร้านข้างๆได้เลย เขามีหมดอ่ะครับทั้ง น้ำอัดลม น้ำเปล่า น้ำหวาน โอ๊ย! สารพัด นอกจากร้านของป้าปุ๋ยแล้ว เด็กดาราและเด็กปรินส์ ก็ยังมีแหล่งที่กินซึ่งถือได้ว่าเป็นเขตทับซ้อนของทั้งสองโรงเรียนอยู่ด้วย( พูดเหมือนเค้าแบ่งเขตการปกครองเลยเน๊อะ) นั่นคือ “แถวหน้า โรงพยาบาลแมคคอร์มิก” เนื่องจากแถวนั้นมีของกินให้เลือก แบบเยอะมาก ถึงมากๆ ไม่ว่าจะเป็น ข้าวราดแกง, ลูกชิ้นปิ้ง, ขนมเบื้อง, เค้ก, เบเกอรี่, ผัดไทย ฯลฯ เห็นมั้ยครับว่ามันเยอะขนาดไหน ถ้าสนใจก็ลองไปเดินดูกันได้นะครับ
3.ย่านเด็กมงฯ (ประถม)
ย่านนี้เป็นย่านของเด็กชายล้วนในอดีต ซึ่งในปัจจุบันเท่าที่หาข้อมูลมาเหมือนว่าจะเริ่มรับผู้หญิงแล้วหลังจากที่เป็นโรงเรียนชายล้วนมาตั้งนาน และเป็นโรงเรียนเก่าของยอดนักร้องชื่อดังขวัญใจวัยรุ่นไทยหลายคนอย่าง “พี่บี้ เดอะสตาร์” (กรี๊ดๆๆๆ) ปกติเมื่อก่อนผมไม่ค่อยมาแถวนี้หรอกครับ เพราะว่ามาทีไรมันมักจะเลยไป (พระหฤทัย, เรยีนา) ซะทุกที !
ในเมื่อวันนี้มาลงพื้นที่สำรวจที่นี่แล้วก็ทำให้ผมได้รู้ว่า เด็กมงฟอร์ตนั้น “เค้าชอบกินไก่” เนื่องจากเด็กหลายคนแถวนั้นต่างแนะนำร้านเป็นเสียงเดียวกันว่า ต้องไป “ไก่ทอดป้าเจี๊ยบ” ไก่ทอดสำหรับเด็กๆนั้นถือเป็นของทานเล่นที่อร่อยที่สุดและจากการเห็นว่าเด็กๆชอบทานไก่ทอดกัน ป้าเจี๊ยบเจ้าของร้านเลยคิดอยากลองขายดูบ้าง โดยขายเป็นน่องและสะโพกไก่ชุบเกล็ดขนมปังทอด ซึ่งจะแตกต่างจากร้านไก่ทอดร้านอื่นๆ ด้วยความกรอบของไก่ทอดที่นี่จึงเป็นรู้จักในชื่อร้านป้าเจี๊ยบไก่กรอบ ซอสบาร์บีคิวทีเด็ดของร้านเป็นสูตรที่ป้าเจี๊ยบคิดขึ้นสำหรับเด็กๆโดยเฉพาะ นอกจากนั้นก็มีเมนูน้องใหม่ที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาก็คือโครเก็ต (มันบดชุบแป้งทอด) เป็นที่ชื่นชอบอย่างมากของเด็กๆเช่นกัน แต่ถ้าคนไหนที่กินแค่ไก่ทอดไม่อิ่ม ป้าเจี๊ยบก็มีข้าวไก่ทอดขายให้ด้วย ไก่ทอดราคาเริ่มต้นที่ชิ้นละ 20 บาทเท่านั้น
และอีกร้านที่บอกมาก็เป็นร้านไก่ที่มีชื่อว่า “ป้าวันไก่ชีส” ร้านไก่ชีสในตำนานเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักเรียนมงฟอร์ต เรยีนา และพระหฤทัย ทั้งศิษย์เก่าและปัจจุบันเพราะร้านนี้เปิดขายมาเกือบ 20 ปีแล้ว แต่เดิมป้าวันเปิดร้านขายขนมไข่นกและขนมต่างๆมาก่อนและคิดว่าหาเมนูใหม่มาขายเรื่อยๆ จนได้มาขายไก่ทอดที่เป็นไก่ไร้กระดูกแต่มีร้านอื่นขายแข่ง จึงได้คิดสูตรใหม่เป็นไก่ชีส ซึ่งก็เป็นที่ติดอกติดใจของเด็กๆแถวนั้นเป็นอย่างมาก จนทุกวันนี้มีไก่ทอดสูตรต่างๆมากมาย อาทิ ไก่ชีสไข่กุ้ง ไก่ชีสหอยเชลล์ ไก่สาหร่าย ขายในราคาไม่แพงเพียงชิ้นละ 15 – 20 บาท นอกจากนั้นก็มี อูด้งต้มยำ อูด้งไก่ชีส ข้าวอบชีส สปาเก็ตตี้อบชีส ที่เป็นขวัญใจของเด็กๆ ราคาจานละ 30 บาท
ย่านเด็กมงฯ (มัธยม)
ส่วนมงฯ ใหญ่นั้นก็มีมากมายหลากหลายร้าน ไม่ว่าจะเป็นร้านลุงดำ ลุงกบ ร้านอาหารตามสั่งที่อยู่คู่กับเด็กมงฟอร์ตฯมานานกว่า 10 ปี เพราะเมนูอาหารที่แปลกไม่เหมือนใคร อาทิ หมูนะนาวผัดไข่ ไข่ระเบิด ที่ทำให้เด็กๆติดอกติดใจกับร้านนี้และนอกจากนั้นก็ยังมี ไก่สะเด็ด หรือที่เด็กมงฟอร์ตรู้จักกันดีในชื่อร้านสะโพกทอดนั่นเอง และยังมีเฟรนส์ฟรายด์และมาม่าหลังโรงเรียนที่เด็กๆนั้นชื่นชอบอีกด้วย
ร้านลุงกบ
ร้านไก่สะเด็ด
4. ย่านเด็กพระหฤทัย
เดินทางกันมาจนถึงหน้าโรงเรียนพระหฤทัย ขวัญใจเด็กหนุ่มน้อยใหญ่หลายต่อหลายโรงเรียน ซึ่งสมัยที่ผมเรียนอยู่นั้นโรงเรียนนี้คือดินแดนที่เหล่าผู้ชายหลายๆ คนอย่างผมวาดฝันที่จะได้เข้าไปเหยียบซึ่งโอกาสเดียวของเด็กชายตัวน้อยๆ แบบผมใน ตอนนั้นก็คือ “ช่วงงานเทศกาลประจำปี” ที่เปิดให้ผู้คนทั่วไปที่มีบัตรสามารถที่จะเข้าไปได้ด้วย ดังนั้นหากเด็กผู้ชายคนไหนมีบัตรหลายใบก็จะกลายเป็นเทพพระเจ้าของเพื่อนๆ ขึ้นมาโดยปริยาย
เมื่อมาถึงผมก็เจอว่า ร้านถ่ายเอกสารร้านนี้ทำไมคนเยอะจังพอเดินเข้าไปดูเท่านั้นแหละก็พบว่า เค้าชื่อร้าน “Fruitshake By ชมพู่” จากร้านถ่ายเอกสารที่ขายน้ำผลไม้ปั่นเป็นรายได้เสริม แต่พอนานวันกลับขายดีอย่างเทน้ำเทท่า พี่ชมพู่จึงได้หันมาขายน้ำผลไม้ปั่นอย่างเต็มตัว ซึ่งถ้าถามเด็กนักเรียนพระหฤทัยก็คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก เมนูของทางร้านมีมากกว่า 20 เมนูให้เลือกซื้อทานกัน ส่วนราคาก็สบายกระเป๋า อยู่ที่แก้วละ 15 – 20 บาทเท่านั้น ส่วนเมนูที่เป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ ก็คือ โอริโอ้ปั่น
แต่หากพูดถึงร้านอาหารตามสั่งหน้าโรงเรียนพระหฤทัย ถ้าถามว่าร้านไหนที่เด็ดๆ เด็กๆทุกคนก็ต้องตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “ร้านลุงหนวด” ด้วยเอกลักษณ์ของพ่อครัวที่มีหนวดยาว เด็กๆที่นี่เลยเรียกร้านนี้ว่า ร้านลุงหนวด จนเป็นที่ติดปาก ร้านนี้เปิดขาย มานานกว่า 20ปี เมนูเด็ดที่เด็กๆ ชอบสั่งมาทานก็ต้องยกให้ สุกี้ทะเลเต้าหู้ไข่ ราคาเพียง 45 บาท เพราะน้ำจิ้มสุกี้ของที่ร้านเป็นสูตรของคุณแม่ลุงหนวดที่คิดขึ้นมาเอง รับรองว่าอร่อยเหาะแน่นอน! จากร้านอาหารตามสั่งที่มีเมนูเพียงไม่กี่อย่าง พอเด็กๆ มาช่วยแนะนำก็เริ่มคิดเมนูใหม่ๆขึ้นมา จนต้อนนี้เมนูที่ร้านมีมากกว่า 30 เมนูให้เลือกทาน นอกจากนั้นทางร้านยังรับทำข้าวกล่องด้วย
5.ย่านเด็กเรฯ
เมื่อมาถึงหน้าโรงเรียนเรยีนาเชลี แห่งนี้ความรู้สึกแรกของผมก็คือคิดถึงเธอคนนั้นจัง เธอคนที่มาทำให้เราตกหลุมรักแล้วก็จากเราไป (ความจริงเราเองนี่แหละที่ไปตกหลุมรักเค้าเอง 555) นึกแล้วก็เศร้า… แต่ว่านั้นเป็นเรื่องของเมื่อ 11 ปีก่อน ซึ่งวันนี้ผมมาที่นี่ในฐานะเจ๋งที่พาทุกคนมาไล่ล่าหาของกินกัน ดังนั้นหน้าที่ของผมคือพาทุกคนไปหากินของอร่อยๆ ครับ ส่วนเรื่องตอนนั้น… เศร้าแป๊บ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาผมว่าท่านผู้อ่านไปหาของกินกันดีกว่าครับ
เริ่มต้นที่ “ไก่ห่อชีสป้านงนุช” ไก่ห่อชีสหน้าโรงเรียนเรยีนาร้านนี้เปิดขายมานาน 20 กว่าปีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนรุ่นไหนก็ต้องเคยกินร้านนี้ จากไก่ทอดแบบธรรมดาทั่วไปที่หาทานที่ไหนก็ได้ แต่มีเด็กๆแนะนำมาว่าอยากกินไก่ชีส ไก่มายองเนส ป้านงนุช เลยคิดสูตรขึ้นมาใหม่เพื่อตามใจเด็กๆ จนได้มาเป็นไก่ห่อชีส ไก่ห่อมายองเนส ที่ก่อนกินต้องโรยผงปาปริก้า และ ราดซอสพริกหน่อยเพื่อเพิ่มความอร่อย รับรองว่าจะได้เจอกับชีสและมายองเนสแบบเน้นๆ แน่นอน ขายในราคาชิ้นละ 10 บาทและนอกจากนั้นก็ยังมี ไก่แซ่บ ปลาแซ่บ ที่ฮอตฮิตไม่แพ้ไก่ห่อชีสเลย ขายในราคาชิ้นละ 5 บาทเท่านั้นเอง
กินไก่รองท้องกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วร้านต่อไปที่ผมได้รับการแจ้งเบาะแสมาจากน้องสาวๆ ว่าเด็ดมากร้านต่อไปคือร้าน “สุกี้พี่เก๋” ร้านอร่อยหน้าโรงเรียนร้านนี้เป็นที่รู้จักกันดีของสาวๆเรยีนาและพระหฤทัย ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีเป็นร้านขายข้าว ไข่เจียวดาว แต่พี่เก๋เจ้าของร้านได้ขายสุกี้อยู่ที่เซ็นทรัลกาดสวนแก้วอยู่แล้ว จึงเอาสุกี้มาขายเพิ่มด้วย ซึ่งตอนแรกๆนั้นขายได้เพียงวันละ 10 – 20 ถ้วย เพราะส่วนใหญ่เด็กๆจะไม่กินผักกัน พี่เก๋จึงปรับปรุงสุกี้เป็นแบบตามใจเด็ก ที่จะไม่ใส่ผัก แต่เพิ่มวุ้นเส้น เพิ่มหมูเข้าไปแทนจากนั้นก็เริ่มเป็นที่รู้จักของเรื่อยๆ ขายราคาถ้วยละ 20 บาท หรือถ้าเพิ่มหมู เพิ่มผักก็เพิ่มราคาเป็น 25 – 30 บาท
6.ย่านเด็กยุพฯ
ต่อมาก็ถึงคิวของโรงเรียนรัฐบาลแห่งแรกของภาคเหนือและโรงเรียนประจำจังหวัดเชียงใหม่ ที่ก่อตั้งมาแล้วกว่า 125 ปี (นานมั้ยล่ะตัวเทอว์) แถมยังอยู่กลางใจเมืองด้วย แน่นอนล่ะว่าจะเป็นโรงเรียนไหนไปไม่ได้นอกเสียจาก … “โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย” นั่นเอง ไหนขอเสียงของชาวยุพราชฯหน่อยสิ (เฮๆๆๆๆๆ) มาเริ่มต้นด้วยร้านที่ผมคิดว่าถ้าคุณเป็นเด็กยุพฯจริง จะต้องรู้จักกันแน่นอนกับร้าน “ธันย่า” ร้านอาหารที่อยู่คู่กับโรงเรียนยุพราชมานานกว่า 16 ปี ร้านธันย่า เป็นร้านอาหารที่มีทั้งเครื่องดื่ม ติ่มซำ ชามุก ของหวาน ไอศกรีม ของทานเล่น และ บลา บลา บลา ให้เลือกทานเยอะแยะมากมาย เมนูเด็ดๆของร้านก็เป็นข้าวไก่อบ ข้าวหมูอบ และข้าวไข่ระเบิด ราคาเริ่มต้มที่ 20 บาทเท่านั้น
จากพนักงานออฟฟิตที่อยากคิดเปลี่ยนอาชีพ เลยมาลองขายเครื่องดื่มเป็นแก้วดูบ้างบวกกับในตอนนั้นที่เริ่มทำกระแส ชามุกกำลังมาแรงก็เลยมาทำตรงนี้ขาย จนเป็นที่ชื่นชอบของเด็กยุพฯ และก็เรียกกันต่อๆ มาจนติดปากว่า “ร้านมุกหวาน” เพราะมุกของที่นี่หวานและอร่อย เมื่อก่อนทางร้านขายน้ำเพียงไม่กี่อย่างแต่เด็กๆ แนะนำมาว่าอยากกินนั่น อยากกินนี่ ก็เลยเพิ่มน้ำต่างๆมา จนตอนนี้มีน้ำมากมายให้เลือกซื้อทาน นอกจากนั้นเด็กๆสามารถเลือกได้ว่าจะใส่เป็นมุกหรือเจลลี่สีต่างๆตามที่ต้องการได้เลย
มาปิดท้ายกันที่ร้าน “ป้าหนิงหมี่ยำ” ร้านนี้ไม่ได้มีแต่เด็กยุพราชเท่านั้นที่รู้จัก เด็กอาชีวะเชียงใหม่และผู้คนที่ผ่านไปมาแถวนั้นก็รู็จักเป็นอย่างดี ร้านหมี่ยำดั้งเดิมร้านนี้เป็นหมี่ยำสูตรลับแล แต่ป้าหนิงเจ้าของร้านได้ปรับปรุงให้เป็นสูตรของป้าหนิงเอง ป้าหนิงเริ่มจากขายยำมะม่วง แต่พอหมดหน้ามะม่วงก็ราคาแพง เลยเปลี่ยนมาขายเป็นหมี่ยำแทน ซึ่งสามารถทำขายได้ตลอด ทีเด็ดของหมี่ยำนี้อยู่ที่น้ำยำหมี่และเครื่องยำที่เยอะ ซึ่งราคาก็แสนจะถูกอยู่ที่ถ้วยละ 15-25 บาทเท่านั้น นอกจากนั้นยังมีขนมจีนน้ำเงี้ยวสูตรเชียงรายขายด้วย
7.ย่านเด็กกาวิละ
โรงเรียนชื่อดังที่แยกตัวออกมาอยู่ยังบริเวณรอบนอกของเชียงใหม่เพื่อหลบหนีความวุ่นวายในตัวเมืองออกมาอยู่ย่านนี้ แต่ถึงจะออกมาอยู่ไกลจากความวุ่นวายแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีของอร่อยให้เด็กโรงเรียนนี้ได้กินอย่าง “ร้านของทอดกาวิละ” ของทอดถือว่าเป็นอาหารสุดฮิตที่กินง่ายและแต่ทำให้อิ่มได้จริง โดยที่โรงเรียนแห่งนี้เขาก็มีขายโดย ร้านนี้ไม่มีชื่อร้านแต่ขายของทอดเกือบจะทุกอย่างเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ไก่ หมู ลูกชิ้น เห็ด ฯลฯ โดยเฉพาะไก่ซุปแป้งทอดต้องบอกเลยว่าชิ้นใหญ่ จัดเต็มมาก แบบว่ากินแค่ชิ้นเดียวแต่อิ่มกันทั้งวันยังได้เลย ราคาก็เริ่มต้นแค่ชิ้นละ 5-10 บาทเท่านั้นเอง
กินของทอดเสร็จแล้วเราก็มาหาเครื่องดื่มแก้อาการคอแห้งกันดีกว่าครับ ในย่านนี้ถ้าหากพูดถึงร้านชาไข่มุกคงไม่มีใครไม่รู้จัก “ อาเจษชาไข่มุก” ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องความเย็นดับกระหายตำนานแห่งโรงเรียนกาวิละเลยก็ว่าได้ เพราะร้านชาไข่มุกเจ้านี้ เปิดขายมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปีแล้ว เชื่อว่าเด็กกาวิละหลายๆรุ่นคงรู้จักกันเป็นอย่างดี นอกจากที่นี่จะขายชาไข่มุกเป็นหลักแล้วยังมีน้ำปั่น น้ำหวานต่างๆมากมายในราคาประหยัด เริ่มต้นที่แก้วละ 10 บาทเท่านั้น
8. ย่านเด็กสาธิต มช.
มาต่อกันร้านเด็ดย่านเด็กมอ อย่างสาธิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ใน มช. ผมต้องขอบอกว่าเด็ดครับที่นี่ ขาวๆ ทั้งนั้นเลยครับ แหม่! รู้นะคิดอะไรอยู่ ผมหมายถึงไก่ทอดครับไก่ทอด ร้านนี้เลย “แม่ละมัยไก่ทอด” หน้าประตูศึกษา มช. ที่มีทั้งปีก น่อง ขา ขายชิ้นละ 10 บาทขึ้นไป ยิ่งมีข้าวเหนียวร้อนๆ อื้อฮือ เด็ด! และถ้าหิวก็ซื้อน้ำผลไม้ปั่นร้านเนี๊ยะ! ที่อยู่ข้างๆกันได้เลย หรือใครอยากกินอย่างอื่นก็สามารถเดินย่านหลังมช. กินกันให้พุงกางยังได้ เพราะร้านเยอะเหลือเกิน
9. ย่านเชียงใหม่คริสต์
มาที่ย่านติดริมแม่น้ำปิงกันบ้างดีกว่า ตอนเด็กผมชอบขี่รถผ่านบ่อยๆ เพราะแอบไปปิ๊งสาวโรงเรียนนี้อยู่ (ตามประสาเด็กอ่ะนะ) ส่วนร้านอร่อยหน้าโรงของที่นี่ก็มีทั้ง “ร้านลุงแอ่นน้ำปั่น” ร้านน้ำเล็กในซอยน้อย ที่เปิดมานานกว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งก็มีน้ำอัดลม น้ำหวานหลากหลายรสชาติให้เลือก ราคาเบาๆแค่แก้วละ 15-20 บาท เมื่อพูดถึงร้านลุงแอ่นน้ำปั่นแล้ว จะไม่พูดถึง “ร้านป้านิด” ของทอดของดองคงไม่ได้ เพราะว่าสองร้านนี้เขาอยู่ติดกันและขายมาเป็นเวลาหลายปี เมนูเด็ดที่เป็นที่ติดใจของเด็กที่นี่ คงหนีไม่พ้นของทอดไม่ว่าจะเป็น ลูกชิ้น ฮอทดอก เกี๊ยว ฯลฯ ซึ่งถือว่าถ้าเป็นของว่างยามเลิกเรียนที่ดีทีเดียว และอีกหนึ่งเมนูเด็ดที่อร่อยไม่แพ้กัน คือ ผลไม้ดอง ที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี ราคาเริ่มต้นที่ 10 บาทเท่านั้น
10. ย่านเด็กอนุบาลเชียงใหม่ฯ
มาถึงย่านสุดท้ายแล้วครับกับย่านหน้าโรงเรียนอนุบาลเชียงใหม่ที่ผมเคยมาบ่อยๆ เมื่อก่อน (ที่มาบ่อยเพราะว่าบ้านอยู่แถวนี้นะครับ ไม่ได้มาจีบสาวแต่อย่างใด 555) ร้านของกินที่ได้รับความนิยมจากเด็กๆอนุบาลเชียงใหม่นั้นส่วนมากจะเป็นร้านเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพครับ ไม่ว่าจะเป็นร้าน “ป้าใหญ่น้ำปั่นผลไม้” ร้านป้าใหญ่น้ำผลไม้ปั่น เปิดขายให้กับเด็กๆอนุบาลเชียงใหม่มา 23 ปีแล้ว แต่เดิมเป็นร้านขายอาหารที่ขายให้กับเด็กๆและขายเครื่องดื่มต่างๆ ซึ่งจากการขายน้ำอัดลมให้กับเด็กป้าใหญ่คิดว่ามันไม่มีประโยชน์ต่อ เลยเปลี่ยนมาเป็นน้ำผลไม้แทนและอาหารก็ขายแต่แค่ช่วงเช้าก่อนเด็กเข้าเรียน น้ำผลไม้ร้านป้าใหญ่ราคาเริ่มต้นที่ 20 เป็นน้ำผลไม้สดๆทุกแก้ว อาหารตอนเช้าที่ป้าใหญ่ขายก็จะมี ข้าวไข่ดาว หมูหวาน ข้าวผัด ขายในราคากล่อง 10,15,20 บาท
ส่วนอีกร้านที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันก็คือร้าน “ไมโลดิบ” เห็นว่าเป็นไมโลดิบอย่างนี้แต่บอกเลยว่า สูตรของที่นี่จะไม่เหมือนกับที่อื่นครับ เพราะว่าทางเจ้าของร้านเค้าได้มีการปรับปรุงสูตรของไมโลดิบให้ไม่เหมือนกันกับที่อื่น คือ ก็จะมีในส่วนของชา กาแฟ งาดำ นมผลไม้ โยเกิร์ต ฯลฯ เพิ่มขึ้นมาเพื่อให้ถูกปากของน้องๆหนูๆที่นี่กัน ขายในราคาแก้วละ 5-10 บาท ใครชอบแบบไหนก็จัดกันได้เลยครับ
ท่านใดมีร้านอร่อยหน้าโรงแนะนำเจ๋งเข้ามาได้ อย่าลืมแวะมา Comment มาแชร์ให้เจ๋งได้รู้ตามช่องด้านล่างหรือ
เจ๋งจะตามไปรีวิวอย่างทันท่วงที เพื่อนๆสามารถตามอร่อยหน้าโรง ภาค 2 ต่อได้ที่นี่ คลิ๊ก
