อีสานล้านเปอร์เซ็นต์ เจ้าเก่าหน้า มช. วันนี้แอดเลยมีเรื่องราวความรักสุดประทับใจของคู่รักอีสาน เจ้าของร้าน “อีสานล้าน%” ที่เปิดขายในจังหวัดเชียงใหม่มาฝากกันจ้า เรื่องราวจะเป็นยังไง ตามไปดูกันเลย!
รักต้องสู้ คู่รักอีสานล้าน% เฮ็ดส้มตำ ฝ่าฟันชีวิตรัก 28 ปี ล้มลุกคลุกคลาน จากเงินเดือน 300 บาท สู่เจ้าของร้านส้มตำชื่อดังเมืองเชียงใหม่
พาไปชมเรื่องราวของคู่รัก 28 ปี กับการต่อสู้ฝ่าฟันชีวิตมาด้วยกัน ที่หากพูดถึงร้านอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดเชียงใหม่ คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักร้าน “ส้มตำอีสานล้าน%” (เจ้าเก่าหน้า ม.ช.)
ที่สมัยก่อนเคยเปิดกิจการอยู่ที่บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จนมีชื่อเสียงในเรื่องของรสชาติอาหารที่คนเชียงใหม่ รวมทั้งวัยรุ่นหนุ่มสาว และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ต้องรู้จักดี
รสชาติของความความรัก
แต่ปัจจุบันร้านดังกล่าวได้ย้ายมาตั้งอยู่ที่บริเวณเยื้องสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก ถนนหนองฮ้อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ แต่รสชาติความอร่อยนั้นยังคงคุณภาพเช่นเดิม
สุวัฒน์ วังมฤคร์ อายุ 49 ปี เจ้าของร้าน และภรรยา ที่ขายอาหารมากว่า 20 ปี ด้วยฝีไม้ลายมือของเจ้าของร้าน ทำให้ผ่านพ้นอุปสรรค เรื่องราวทั้งดีและร้ายมาด้วยกัน แม้ล้มลุกคลุกคลานก็ไม่เคยย่อท้อ
จนกระทั่งถึงปัจจุบันที่ทำให้ทั้งคู่ยังคงประกอบอาชีพเปิดร้านขายส้มตำ และยังคงมีลูกค้าประจำเดินทางมาอุดหนุนอย่างไม่ขาดสาย เราได้มีโอกาสนั่งพูดคุยกับ นายสุวัฒน์ วังมฤคร์ อายุ 49 ปี เจ้าของร้าน “ส้มตำอีสานล้าน%” (เจ้าเก่าหน้า ม.ช.)
ที่ได้เล่าถึงเรื่องราวในชีวิตจากการเริ่มต้นด้วยเงินเดือนเพียง 300 บาท สู่การเป็นเจ้าของที่กิจการมีเงินเก็บกว่า 10 ล้านบาท แต่เจอจุดเปลี่ยนในชีวิตจากจุดสูงสุด ร่วงลงมาสู่จุดต่ำสุดอีกครั้ง จากความประมาทในการใช้ชีวิต แต่ยังดีที่มีภรรยาคอยอยู่เคียงข้าง และต่อสู้ฟันฝ่าจนกระทั่งสามารถกลับมาตั้งตัวและเปิดร้านประกอบกิจการได้อีกครั้ง
นอกจากนี้เจ้าตัวถึงกับปฏิญาณกับตัวเองว่าจะปรับเปลี่ยนชีวิตตัวเองสู่ผู้นำครอบครัวที่ดี จนปัจจุบันชายคนนี้กลายเป็นผู้ประสบความสำเร็จ เปิดร้านทำกิจการอีกครั้ง
ทั้งนี้ทาง สุวัฒน์ เจ้าของร้าน “ส้มตำอีสานล้าน%” (เจ้าเก่าหน้า ม.ช.) เล่าให้ฟังว่า
“เริ่มต้นตัวเองเรียนหนังสือจบแค่ชั้น ป.6 เข้ามาทำงานที่ กทม.ทำงานได้เงินเดือนเพียงเดือนละ 300 บาท ทำงานรับจ้างทั่วไปรวมถึงงานอื่น ๆ จนเงินเดือนขึ้นมา 4-5 พันบาท และมาเจอกับภรรยาก็คบกันมาและช่วยกันทำมาหากิน แต่ทำไปเท่าไหร่ก็ไม่เคยได้เงินเดือนหลักหมื่นเสียที
ตนจึงลองเปลี่ยนอาชีพมาลองขายอาหาร ขายกับข้าว โดยเริ่มต้นขายที่ กทม.กับภรรยา 2 คน เป็นกิจการเล็กๆ จนเริ่มขายดีขึ้นก็จ้างลูกน้อง 1 คน และเมื่อกิจการดีขึ้นก็จ้างลูกน้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จาก 2 คน จนกิจการของตนมีลูกน้องถึง 16 คน ซึ่งถือว่าเยอะมาก สำหรับคนมีความรู้แค่ ป.6
จนกระทั่งชีวิตกลับพลิกผัน จากตนเป็นคนที่ไม่เคยมีอะไรมาก่อน เมื่อไปเห็นคนอื่นมีก็ทำให้ใจตัวเองอยากได้อยากมีตามคนอื่น เช่น เมื่อมีเงินเห็นคนอื่นใส่ทอง ตัวเองก็อยากใส่บ้าง เห็นคนอื่นมีรถขับก็อยากมีบ้าง แม้กระทั่งตอนไปเที่ยวเห็นคนอื่นเที่ยวตนก็อยากเที่ยวบ้าง โดยในช่วงนั้นถือเป็นช่วงที่ตนมีเงินมากไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ที่ตนหาเงินได้
แต่สุดท้ายด้วยความประมาทในการใช้ชีวิตทำให้ตนต้องกลับมามีหนี้สินถึง 4-5 ล้านบาท เพราะกินเที่ยว และติดการพนัน ส่วนดอกเบี้ยวันหนึ่งก็ประมาณ 10,000 กว่าบาท จนกระทั่งตนมาสารภาพนั่งคุยกับภรรยา อีกทั้งตกลงกันว่าจะหนีไปตายเอาดาบหน้า และยังเคยคุยกันกับภรรยาว่าอยากจะมาปักหลักทำมาหากินที่จังหวัดเชียงใหม่
หลังจากนั้นตนกับภรรยาจึงตัดสินใจหนีหนี้มาอยู่ที่เชียงใหม่ มีเงินติดตัวมาเพียง 1,600 บาท และเริ่มประกอบอาชีพค้าขายอีกครั้ง โดยเริ่มจากการขายส้มตำรถเข็นเล็กๆ บริเวณแถวๆ หน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และช่วงนั้นเป็นช่วงที่มีการจัดงานพืชสวนโลก ซึ่งเป็นจังหวะดีที่ร้านของตนขายดีมากจนลูกน้องร้องไห้ เพราะมีลูกค้ามาอุดหนุนจนไม่มีเวลาพักทานข้าว และขายอยู่ประมาณเกือบ 10 ปี บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่
จากมีลูกน้องเพียงคนเดียว และเริ่มขยายกิจการเพิ่มจำนวนมากเรื่อยๆ จนกระทั่งตอนนั้นตนมีลูกน้องในร้านถึง 21 คน และขายอยู่ที่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยมาจนถึง 15 ปี แต่ก็มีจังหวะช่วงขาลงของชีวิตอีกครั้ง จากที่ตนหาเงินจากการประกอบกิจการได้ถึงประมาณ 10 ล้านบาทนิดๆ เงินก็หมดอีกครั้งจากพฤติกรรมเดิม ที่กินเที่ยว และติดการพนัน
อีกทั้งตอนนั้นเป็นคนติดเพื่อน จนถึงขั้นภรรยาไล่ไปอยู่กับเพื่อน ไปกิน เที่ยว เล่น แล้วกลับมา โดยที่ตนนั้นหนีไปมีความสุขบนความทุกข์ของลูกกับเมีย
จนกระทั่งตนคิดได้ และเริ่มปรับเปลี่ยนตัวเอง ตลอดมาจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ร่วม 7 ปี ที่ตนเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยการ “ลด ละ เลิก” ทุกอย่างที่เคยทำไม่ดีมา นายสุวัฒน์ เล่าให้ฟังอีกว่า
ภรรยานั้นเคยให้โอกาสและให้อภัยตัวเองมาถึง 43 ครั้ง
และเรียกได้ว่าเป็นภรรยาที่ไม่รู้ว่าเกิดชาติหน้าหรือชาติไหนๆ จะหาได้อีก ตนจึงปฏิญาณตัวเองว่าต่อจากนี้จะคืนความสุขให้กับภรรยา และจะไม่ไปมีความสุขบนความทุกข์ของลูกกับภรรยาอีกแล้ว และตั้งแต่วันนั้นตนก็เปลี่ยนแปลงตัวเอง กลับเป็นคนออกกำลังกาย และกินแต่อาหารที่มีประโยชน์เพื่อบำรุงร่างกาย และกลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง
โดยมาเริ่มเปิดกิจการขายอาหาร ขายส้มตำอีกครั้ง โดยเริ่มด้วยการขายแบบเล็กๆ น้อยๆ และก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมาเปิดร้านที่อยู่ปัจจุบันนี้และมีลูกน้อง 5 คน ส่วนรายได้ในแต่ละวันก็ดีขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกอย่างจะดีอย่างไรก็อยู่ที่ตัวเองหากยังไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ดีที่ตนเป็นคนตั้งในที่จะ “ลด ละ เลิก” ทุกอย่างที่เคยทำมา โดยตั้งแต่ที่ตนเลิกกิจการที่หน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่มา ตนก็ไม่เคยแตะอบายมุขอีกเลย
โดยตอนช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบสอง ตนมีลูกน้องในร้าน 5 คน ตนก็พยายามประคับประคองทั้งค่าใช้จ่ายและชีวิตของลูกน้อง เพราะโชคดีที่ตนไม่ขยายกิจการใหญ่โตเหมือนเช่นร้านที่เคยเปิดหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงสามารถประคับประคองผ่านมาได้
รวมไปถึงความขยันทำงานของตนเองกับภรรยา ที่ทำงานวันละไม่ต่ำกว่า 16 ชั่วโมง โดยทุกวันนี้ตนต้องตื่นก่อนเวลา ร้านเปิดตอนเช้า 8 โมง แต่ตนก็ตื่นก่อนเพื่อมาตระเตรียมข้าวของ ทำความสะอาดร้าน และเข้านอนประมาณ 5 ทุ่ม เกือบเที่ยงคืน จึงทำให้กิจการของตนยังสามารถอยู่ได้แม้ว่าจะเผชิญวิกฤติอะไรก็ตาม
โดยตนอยากฝากถึงคนที่กำลังทำธุรกิจ หรือประกอบอาชีพต่างๆ ที่กำลังท้อแท้กับชีวิต ท้อแท้กับวิกฤติที่เกิดขึ้น อยากให้มองไปถึงคนข้างหลัง คนรอบข้าง หรือครอบครัว รวมไปถึงคนที่รักเรามากที่สุด โดยคิดว่าทำยังไงให้คนที่เรารักอยู่รอด ก็จะทำให้ตัวเองสามารถใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้ และอย่าไปยุ่งกับอบายมุข ไปนอกลู่นอกทาง หลังตนเปลี่ยนมารักครอบครัวก็ทำให้ตนมีความสุขขึ้น
Fan page : อีสานล้าน% byโก๋วัฒน์ – เจ้าเก่า มช.
เป็นยังไงกันบ้างกับ รสชาติของความความรัก ที่นำมาฝากกันใครมีเรื่องราวความรักที่ประทับใจก็นำมาแชร์ มาเล่า ให้แอดฟังได้น้า
อ่านเรื่องราวอื่น ๆ ด้านล่างนี้เลย!
- คนหยัง? ตาแดง ยายดี ไอศกรีมวอลล์
- ของขวัญวันวาเลนไทน์ 20 อันดับ ที่คนรักต้องประทับใจ 2021
- สรุปมัดรวม คำคม แคปชั่นวาเลนไทน์ เด็ด ๆ แคปชั่นความรัก อะ ว่าไป
- แคปชั่นวาเลนไทน์ คำคม แคปชั่นเด็ดๆ เรียกไลค์เพียบ!
- วาเลนไทน์ 2021 รวมชุดสาวๆ ให้สุดอินเลิฟ
- ของขวัญวันวาเลนไทน์ รายการอะหยังเอ๊าะ
