ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ส่งผลกระทบต่อสมอง และ 3 วิธีป้องกัน PM 2.5

ฝุ่น PM 2.5 มีความสัมพันธ์กับโรคสมองเป็นอย่างมาก มีขนาดเล็กกว่าเส้นผมหลายสิบเท่า เมื่อเราสูดฝุ่น PM 2.5 เข้าไปจะตรงไปที่สมอง และกระตุ้นทำให้เกิดโรคสมองเสื่อม โรคหลอดเลือดสมองตีบ จะเห็นว่ามีปัจจัยต่อสมองโดยตรง สำหรับเด็กฝุ่น PM 2.5 นี้ก็ถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะว่าเด็กเป็นวัยที่สมองกำลังมีการเจริญเติบโตและอยู่ในวัยเรียน PM 2.5 จะไปรบกวนกระบวนการเรียนรู้ของเด็ก ทำให้เด็กมีสมาธิสั้น ความจำสั้นลง และการพัฒนาทางด้านเรื่องสมองกับการเรียนรู้ใหม่ๆแย่ลง พูดง่ายๆคือว่า PM2.5สามารถทำให้เด็กมีความจำ ความฉลาดที่ลดลง


ฝุ่น PM 2.5 มีความสัมพันธ์กับโรคสมองเป็นอย่างมาก

ผู้ป่วยกลุ่มที่มีความเสี่ยง คือผู้สูงอายุที่อายุมากว่า 60 ปีขึ้นไปถือว่ามีความเสี่ยงสูง ถึงแม้จะไม่เป็นโรคก็ตาม ส่วนผู้สูงอายุกลุ่มที่มีโรคประจำตัวที่เกี่ยวกับโรคสมอง เช่น คนที่เป็นอัมพฤกษ์อัมพาต เป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบ โรคอัลไซเมอร์ โรคความจำเสื่อม ก็จะมีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อมมากขึ้น เกิดโรคอัมพฤกษ์อัมพาตเป็นซ้ำได้ง่ายขึ้น จากPM 2.5 อันนี้เป็น 2 โรคที่พบได้บ่อยๆ ในคนอายุน้อยเป็นโรคปวดศีรษะไมเกรน มีอาการมึนหัวเวียนหัวง่าย กลุ่มนี้หากสูด PM 2.5 เข้าไป ก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของสมองลดลงไป ไมเกรนเป็นมากขึ้น อาการเวียนศีรษะก็จะเป็นมากขึ้น เช่นกัน


3 วิธีป้องกัน PM 2.5 ต่อโรคสมอง

  1. เช็ค Application หรือเครื่องมือในการเช็คค่า PM 2.5 ว่าเพิ่มขึ้นหรือน้อยลง
  2. เมื่ออยู่บ้านปิดประตูหน้าต่างให้สนิท เปิดเครื่องฟอกอากาศ ดื่มน้ำสะอาดให้มากๆ
  3. เมื่อต้องออกไปข้างนอก ควรใส่หน้ากาก N95 หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง

ฝุ่น PM 2.5 เวลาเราเห็นไกลๆ ก็เป็นเหมือนหมอกควันธรรมดา แต่โดยแท้ที่จริงแล้วมีขนาดเล็กมาก จนเรียกได้ว่าเป็นเพชฌฆาตเงียบ เพราะ PM 2.5 มีผลกระทบต่อสมองโดยตรง สามารถผ่านเข้าสมองได้โดยตรง ทำให้สมองเสียหายได้ มีผลทั้งระยะสั้น มึนงง เวียนศีรษะ ปวดหัวมากขึ้น และมีผลในระยะยาวซึ่งทำให้สมองเสื่อมมากขึ้น เกิดอัมพฤกษ์อัมพาตมากขึ้น ฝากให้ทุกคนดูแลตัวเอง ดูแลคนที่เรารัก และเตือนคนที่กำลังเผาอยู่ก่อให้เกิด PM 2.5 อยากให้มีส่วนรับผิดชอบต่อสังคมร่วมกัน

ติดตามสาระความรู้จาก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

Relate Posts :