สักฟรี เชียงใหม่ ! แลกกับการเป็นอาจารย์ใหญ่

สักฟรี เชียงใหม่ – หนุ่มช่างสักดีกรีแชมป์ “Chiang Mai Tattoo Art Festival 2015” ริเริ่มโครงการช่วยเหลือสังคม เปิดรับสักเรือนร่างฟรี กับผู้สนใจชื่นชอบศิลปะบนเรือนร่าง โดยการนำร่างกายบริจาคเพื่อเป็นอาจารย์ใหญ่ให้กับโรงพยาบาล หวังให้วงการแพทย์ของไทยพัฒนาก้าวไกลจากการศึกษาอาจารย์ใหญ่

วันที่ 3 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่ อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ได้มีร้านเปิดบริการสักรายที่ริเริ่มโครงการดีๆ ช่วยเหลือสังคมอยู่ร้านหนึ่ง ใช้ชื่อว่า “Tattoosby Lifetattoo Owner” ซึ่งเป็นโครงการที่ให้ผู้สนใจและชื่นชอบศิลปะบนเรือนร่างได้เข้าร่วม ชื่อโครงการว่า “บริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่แลกรอยสัก” โดยใช้ฝีมือด้านงานสักของตัวเองแลกกับการให้ผู้เข้าร่วมโครงการบริจาคร่างกาย เพื่อเป็นอาจารย์ใหญ่ตามโรงพยาบาลต่างๆ นำไปใช้ในการศึกษาพัฒนาวงการแพทย์ของไทยให้เจริญก้าวหน้า

เพียงผู้สนใจสักลายกับทางร้าน นำใบบริจาคร่างกายมาแสดงหลักฐานก็สามารถเข้าร่วมโครงการโดยทางร้านยินดีสักให้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะเป็นลวดลายใด หรือขนาดใดก็ได้

ทั้งนี้หลังจากทางผู้สื่อข่าวทราบเรื่องจึงได้ลงพื้นที่ไปยังร้านดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณด้านหลังโรงเรียนวัดเวฬุวัน ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ส่วนเจ้าของร้านสักแห่งนี้คือ นายอรรถพล จอมจันทร์ อายุ 31 ปี ช่างสัก “Tattoosby Lifetattoo Owner” และพบว่ามีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการมารอสักลายที่ร้านดังกล่าว

โดยทางช่างสักก็มีการใช้อุปกรณ์การสักที่มีคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ส่วนดีกรีชื่อเสียงก็ไม่ธรรมดา เพราะเจ้าตัวนั้นเคยชนะเลิศการประกวดผลงานการสักยอดเยี่ยม ในงาน “Chiang Mai Tattoo Art Festival 2015”

ทำให้มีลูกค้าและผู้สนใจเข้าร่วมโครงการปีนี้ไม่ต่ำกว่า 20 คน ซึ่งทุกคนต่างมั่นใจและยืนยันว่าฝีมือช่างสักนั้นไม่ผิดหวังแต่นอน

จากการสอบถามทางด้าน นายอรรถพล จอมจันทร์ อายุ 31 ปี ช่างสัก “Tattoosby Lifetattoo Owner” บอกว่า จุดเริ่มต้นของโครงการที่ตนทำอยู่นี้เกิดมาจากการที่มารดาของตนล้มป่วย แล้วตนต้องไปเฝ้าดูอาการที่โรงพยาบาล ระหว่างนั้นตนได้ไปเห็นผู้ป่วยและคนล้มตายบ่อย ตนจึงเกิดคำถามในใจว่า อะไรที่จะช่วยให้เราอยู่รอดได้ และสิ่งที่สำคัญที่สุดมากกว่าเงินทอง ก็คือชีวิตของเรา

ตนจึงอยากทำบางอย่างให้เกิดประโยชน์ และได้นำเอางานสักมาแลกกับการบริจาคร่างกายที่มาเป็นอาจารย์ใหญ่เพื่อพัฒนาการแพทย์ เพราะตนคิดว่าการเสียสละบริจาคร่างกายเพื่อเป็นอาจารย์ใหญ่ ถือเป็นสิ่งที่ดี

เพราะการมีชีวิตอยู่ต่ออีก 1-2 วัน เพราะการแพทย์ที่ดีขึ้นจากการศึกษาพัฒนาจากอาจารย์ใหญ่ตนรู้สึกว่ามันมีค่ามากที่สุดเพราะบางครั้งมีเงินเป็นร้อยล้านก็ไม่สามารถซื้อชีวิตกลับมาได้ โดยสิ่งที่ตนทำก็ไม่ได้เงินทอง แต่ได้ความรู้สึกที่ดีที่ได้ทำประโยชน์ให้กับสังคม

สำหรับผู้ที่จะเข้ามาร่วมโครงการสิ่งแรกที่ต้องมีคือบัตรบริจาคร่างกาย เพื่อเป็นอาจารย์ใหญ่มาแสดงเพื่อเป็นหลักฐาน ซึ่งบัตรดังกล่าวไม่ใช้บัตรบริจาคอวัยวะซึ่งแตกต่างกันกับบัตรบริจาคร่างกาย โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะบริจาคร่างกายที่โรงพยาบาลใดก็ได้ทั่วประเทศไทย ซึ่งคนเข้าร่วมโครงการก็ไม่จำกัดทั้งคนไทยและต่างชาติ เพียงมีใบบริจาคร่างกาย เพราะตนก็ถือว่าผู้ที่บริจาคร่างกายทุกคนคือคนที่ช่วยโรคใบนี้ไว้เช่นกัน

โดยผู้ที่สนใจนั้นก็ติดต่อกับตนได้ผ่านเพจเฟสบุ๊ก “Tattoosby Lifetattoo Owner” ซึ่งโครงการนี้ตนก็ทำมาอย่างต่อเนื่องปีนี้เป็นปีที่ 5 ซึ่งก็เริ่มทำมาตั้งแต่ตนอยู่ดูแลมารดาที่บ้านหลังนี้ซึ่งเป็นสถานที่เปิดร้านในปัจจุบัน โดยในปีนี้ก็มีผู้สนใจมาเข้าร่วมโครงการน้อยกว่าปีอื่นๆ เนื่องมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด ทำให้เหลืออยู่ประมาณ 10-20 กว่าคน

ขณะที่ทางด้าน นายเบญจมินทร์ สก๊อต ลูกครึ่งชาวไทยอังกฤษ อายุ 29 ปี หนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว บอกว่า ได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าวมาตั้งแต่ช่วงปีแรก เนื่องจากตนเป็นคนชื่นชอบลายสักแนวญี่ปุ่น ตนจึงมาสักกับทางเจ้าของร้านอยู่อย่างต่อเนื่อง 3-4 ปี เนื่องจากตนก็ไม่มีเวลา แต่ก็ยังคงมาทำกับทางเจ้าของร้านอยู่ตลอด และทางเจ้าของร้านก็ไม่เคยทิ้งงาน และจะทำให้จนกว่างานจะเสร็จ

ส่วนคนที่ชื่นชอบการสักและอยากเข้าร่วมโครงการก็สามารถติดตามข่าวสารได้จากเพจเฟสบุ๊ก “Tattoosby Lifetattoo Owner” ได้เลย ส่วนเรื่องการบริจาคร่างกายก็สามารถไปรับใบบริจาคร่างกายจากทางโรงพยาบาลทุกแห่ง