หลังได้รับข่าวดีให้ร่วมออกทริปเดินทางไปฮ่องกงกับ สายการบิน HK Express มีหรือที่เราจะพลาด รีบเก็บกระเป๋าเตรียมชุดสวย กล้องคู่กาย พาสปอร์ตพร้อมแลกเงินเหรียญ และเมื่อถึงกำหนดเดินทาง ออกจากเชียงใหม่ไฟลท์ 10.40 น. (ใช้เวลาเดินทาง 2.30 ชม.) โดยสายการบินฮ่องกงเอ็กซ์เพรสซึ่งป็นสายการบินที่มีชื่อเสียงเรื่องความตรงต่อเวลาและความปลอดภัยระดับ 7 ดาว
ครั้งนี้เราบินด้วยเครื่องบินแอร์บัสรุ่น A320 มีฝูงบินจำนวน 10 ลำ โดย 5 ลำได้ตั้งชื่อเสียน่ากินว่า “ติ่มซำ” เบาะนั่งมีช่องว่างช่วงขากว้างกว่าสายการบินโลว์คอสทั่วไปจึงไม่รู้สึกถึงความอึดอัด เมนูอาหารบนเครื่องของแต่ละสายการบินแตกต่างกันออกไปเป็นเอกลักษณ์ให้น่าจดจำ แน่นอนว่าไฟล์ที่เรามาต้องมีติ่มซำร้อนๆมาเสิร์ฟเป็นออเดิร์ฟเรียกน้ำย่อยกันก่อนที่จะลงไปตะลุยกินของอร่อยที่ฮ่องกงกันอย่างเต็มที่ ทริปนี้เน้นกินดีอยู่ดีเที่ยวสบายแถมปลอดภัยเพราะกับสายการบิน HK Express ที่จัดไกด์มืออาชีพจาก Best Travel คอยดูแลตลอดที่อยู่ฮ่องกง
*ข้อแนะนำก่อนเดินทาง
– ควรเตรียมปลั๊ก 3 ตา เอาไว้ชาร์ทแบตโทรศัพท์มือถือ
– รองเท้าวิ่งช่วยให้เดินได้ดีมากขึ้นไม่ปวดเท้า
– หากต้องการให้อินเตอร์เน็ต สามารถซื้อซิมเปลี่ยนได้ที่ เซเว่น ราคา 80$ ใช้ได้5วัน
(เช่น มีภารกิจส่งงานทางอีเมล หรือยังต้องส่งไลน์หาเพื่อน ที่มักจะฝากซื้อของ มือถือที่ออนอยู่ตลอดเวลาช่วยคุณได้ ถ่ายรูปส่งไลน์ไปให้นางๆเลือกกัน) และถ้าหากหลงทางแนะนำให้ Search Google Map เป็นตัวช่วยได้ดีทีเดียวและใช้ได้ในที่ที่ไม่สัญญาณอินเตอร์เน็ตได้ด้วย
– ควรแลกเงินไปก่อน เผื่อช้อปเสื้อผ้าแบรนด์เนมลดราคา ทั้งรองเท้า นาฬิกาฯลฯ
– สำหรับขาชอปแนะนำไปช่วง 22 มิ.ย.-31 ส.ค. มีเทศกาลลดราคาทั้งเกาะ จองตั๋วล่วงหน้าได้ที่นี่
– สำหรับขาชอปแนะนำไปช่วง 22 มิ.ย.-31 ส.ค. มีเทศกาลลดราคาทั้งเกาะ จองตั๋วล่วงหน้าได้ที่นี่
มาฮ่องกงครั้งนี้เรามาเที่ยวโดยมีพี่เชอร์รี่คนสวยคอยดูแลตลอดทริป สะดวกสบายทั้งที่กินที่เที่ยวพักผ่อนกันเต็มที่ ไม่ต้องคอยพะวงว่าจะเดินทางไปไหนยังไง พอลงเครื่องที่ฮ่องกงปุ๊บ ตั้งแต่วินาทีแรกพี่เชอร์รี่ก็พาก็นั่งรถบัสจากสนามบินเข้าเมืองเลย ถ้ามาเองนั่งรถไฟฟ้า แนะนำให้ซื้อบัตรปลาหมึกออคโตปุสตั้งแต่แรก เพราะสะดวกกับผู้ที่ใช้รถไฟฟ้าเป็นหลัก ส่วนรถเมล์ ราคา 3 เหรียญตลอดสาย ไม่มีการมางินทอนเงินแนะนำให้เตรียมเหรียญให้พอดีก่อนจะขึ้น
โปรแกรมวันแรก
ก่อนเช็คอินเข้าโรงแรม เรานั่งรถพากันไปเดินเล่นแถว อะเวนิว ออฟ สตาร์ (เป็นสถานที่รำลึกถึงบุคคลที่มีส่วนทำให้ฮ่องกงกลายเป็น “ฮอลลีวูดแห่งตะวันออก”) จุดเช็คอินแลนด์มาร์คสำคคัญว่าเรามาถึงฮ่องกงแล้วนะ คนเยอะเดินขวักไขว่ทั้งกลางวันกลางคืน เราไม่ได้เดินไปไหนแค่พักดูวิวทิวทัศน์แถวๆนั้น เพราะช่วงกลางคืนของอีกวันมีแพลนที่จะกลับมาดูแสงสีเสียง Symphony Of Lights กันอยู่แล้ว
ระหว่างที่เดินเที่ยวเจ้ากระเพราะน้อยๆก็เริ่มไม่ค่อยเป็นใจ อาหารมื้อแรกของเราจึงไปจัดหนักที่ หมู่บ้านชาวประมงลียงมุน (Lei Yue Mun Seafood Dinner) เป็นย่านชาวประมง จึงมีอาหารทะเลสดๆ (ถ้าซื้อแพคเกจจะคุ้มค่าและได้กินหลากหลายมากกว่า) แต่ถ้าไปกินกันเองแบบนักท่องเที่ยวลุยๆกันไป ราคาค่อนข้างแพง แต่โดยรวมประทับใจในรสชาติอาหาร จานใหญ่แกะปูกินไปจิบเบียร์ไปก็เข้าที (มีน้ำพริกเผาในน้ำมันเป็นน้ำจิ้มประจำร้านกับน้ำจิ้มซีฟู้ดที่ไกด์เชอรี่จัดหามาให้) อาหารที่เรากินกันมื้อนี้มีทั้งหอยงวงช้างซาซิมิ-หม้อไฟ กุ้งสดลวก ปลาเก๋านึ่งซีอิ๊ว หอยเป๋าฮื้อนึ่ง ปูทอดกระเทียม กุ้งมังกรอบเนย หอยเชลล์นึ่งวุ้นเส้น ปูทอดตังเกและกั้งมังกร เรียกได้ว่าเด็ดดวงเลยทีเดียว
กลับโรงแรมนัดกันเพื่อนร่วมทริปออกเดินราตรี ย่านจิมซาจุ่ย (ลืมไปบอกไปว่าพักที่โรงแรม BP คนไทยส่วนมากจะเรียกกันติดปากว่าโรงแรมลูกเสือ เพราะด้านในตกแต่งธีมลูกเสือ รูปวาด รูปปั้น โลโกเป็นสัญลักษณ์ลูกเสือ )
เดินจากที่พักมาเจอโซนร้านนั่งสบายๆติดๆกันหลายร้านอยู่ระหว่างซอกตึก เดินเที่ยวกลางคืนมาจบพักขาที่นี่กัน อารมณ์เหมือนร้านท่าช้างวัยทำงานฝั่งเกาลูนที่ฮ่องกง อยู่ระหว่างตึกเป็นทางเดินแคบๆ คนคึกคักมาก — ที่ 諾士佛臺 Knutsford Terrace เบียร์ทาวเวอร์ละ 200เหรียญเท่านั้น ไปกัน 5 คนหมดไป 2 ทาวเวอร์ไม่เมา เดินกลับไปหาเบียร์เซเว่นแพคคู่กินกันต่อ ก่อนจะกลับไปพักผ่อนเพื่อรอโปรแกรมในวันรุ่งขึ้น
วันที่2
หลังจากที่พักผ่อนกันอย่างเต็มที่ เมื่อวานจัดหนัก เช้านี้ขึ้นไปกินมื้อเช้าเบาๆ ที่ Banquet Palace กันก่อน เมนูมีดังนี้ โจ๊กเป๋าฮื้อไก่, ฮะเก๋า, ขนมจีบ, ขนมนึ่งไส้ยอดผัก,เปาะเปี๊ยะเผือก, ซาลาเปาไส้หมูแดง , มินิบ๊ะจ่างไส้ไก่กับหอยเชลล์แห้ง กินไปจิบชาจีนร้อนๆไปอร่อยคล่องคอดี ชาจีนที่นี่จะเสิร์ฟมาพร้อมสองกาคือกาน้ำชากับกาน้ำร้อนเอาไว้เติม ข้อดีของการมากันหลายคนคือได้ชิมอาหารหลายอย่าง ถ้าเราลุยมากับเพื่อนเต็มที่ก็สั่งอาหารได้แค่สามอย่างหรือโจ๊กคนละชามก็อยู่ท้องแล้ว
อยู่เชียงใหม่เสพติดกาแฟเช้าอย่างนี้ขาดไม่ได้ เราจึงเดินไปหากาแฟสักแก้วดื่มที่สตาร์บัคย่านนั้นให้ร่างกายสดชื่นกันก่อน จะออกเดินทางไปเที่ยวโอเชี่ยนปาร์ค ตามนัดหมายเราจะอยู่เที่ยวที่นั่นกันทั้งวัน
โอเชี่ยนปาร์ค
ซื้อตั๋วแล้วเข้าไปเล่นเครื่องเล่น เข้าดูการแสดงสัตว์ได้ทุกอย่าง ด้วยการเข้าคิวต่อแถว ไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มเติม นอกจากอาหารและเครื่องดื่ม เที่ยวได้ทั้งวันกิจกรรมสร้างสรรค์กับครอบครัว หรือจะเป็นวัยรุ่นมาเล่นรถไฟเหาะให้ชวนหวาดเสียว
Amazing Asian Animals
โซน Amazing Asian Animals จัดแสดงเกี่ยวกับสัตว์ที่หาดูได้ยาก แพนด้าแดง ซาลามานเดอร์ยักษ์ของจีนและจระเข้จีน เด็กๆที่มาจึงชอบอย่างมาก
Aqua City
อควาซิตี้ไปดูโลกใต้น้ำ มีปลามากกว่า 400 สายพันธุ์ประมาณ 5,000 ตัว น่าพาเด็กๆมาดูค่ะ ตื่นตาตื่นใจเหมือนลงไปอยู่ใต้ทะเลลึก ถ้าไม่รีบเดินไปโซนอื่นต่อ แนะนำให้ลองขึ้นไปทานอาหารชั้นบน เพราะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คุณจะต้องร้อง ว้าว!!!! ออกมาดังๆ เพราะมีสัตว์ทะเลหลากหลายสายพันธุ์ให้เราได้ดู ยังกะลงไปใต้ทะเลลึกกันเลยทีเดียว
2 รูปด้านบนเป็นห้องอาหารที่นั่งทานไปดูไปชิลๆ เหมาะพาคนรัก ครอบครัวมาทาน
2 รูปล่างเป็นห้อง VIP ต้องสั่งอาหาร 8000$ ถึงจะสามารถเข้ามาในห้องนี้ได้ โม้หน่อยว่ามื้อนี้ได้นั่งกินมื้อเที่ยงที่ห้องVIP ว้าวตอนเข้ามาแล้วพอได้เข้าห้อง vip เหมือนได้ดูสารคดีใต้น้ำลึกผ่านจอขนาดที่กว้างใหญ่เท่าผนังบ้านกันเลย
นั่งเคเบิ้ล กระเช้าลอยฟ้า
ข้ามเขาไปอีกโซน มีซุ่มโยนลูกบอล ซุ้มโยนกำไร จุดขายอาหารที่นั่งพักเหนื่อย เดินไปอีกหน่อยไปดูแสดงปลาโลมา น่ารักดี อารมณ์เหมือนดูการแสดงช้างที่เชียงใหม่ ใครชอบเครื่องเล่นท้าท้ายหวาดเสียวโซนนี้ก็มีให้เล่น
สำรวจขั้วโลกเหนือและใต้
การผจญภัยในขั้วโลก เพนกวินแบบใกล้ชิด 70 ตัวเล่นหยอกล้อกันอย่างสนุกสนานบนพื้นน้ำแข็ง
Old Hong Kong เหมือนเดินทางเข้าไปในภาพของคืนวันเก่าๆ ฟื้นคืนความทรงจำของฮ่องกงในอดีต ในยุคทศวรรษที่ 1950, 1960 และ 1970 ชีวิตบนนถนนและทัศนียภาพในสมัยเก่าที่สร้างจำลองขึ้น
มื้อเย็นที่ร้าน
Paramount Banquet Hall
Paramount Banquet Hall
มาถึงนี้แล้วต้องกินห่านสิคิดในใจ อยากกินต้องได้กินมาๆๆเย็นนี้มีเมนู ห่านย่าง รวมอยู่ด้วยรสชาติอาหารโดยรวมถือว่าอร่อยเข้าขั้น นอกนั้นก็ได้กินซุปกระเพาะปลาห้าสหาย, เนื้อไก่ผัดพริกเต้าซี่, ไข่เจียวหมูแดง, ซี่โครงหมูอบกระเทียม ปลากระบอกนึ่งมะนาว
จบมื้อค่ำเราพากันวกกลับมาที่อะเวนิว ออฟ สตาร์ ช่วงกลางคืนมีการแสดงแสงสีเสียง คนมานั่งรอดูอยู่ริมฝั่ง เรามาครั้งที่สองยังจำกลิ่นปลาหมึกย่างร้านริมทางเดินได้ คิดใจในว่าไม่น่าพลาด แวะเซเว่นซื้อเบียร์ 2 กระป๋องราคา 19 เหรียญมานั่งจิบดูฟ้าที่ไม่ค่อยมืด ลมเย็นๆ นั่งดูน้ำทะเล ดูไฟฝั่งฮ่องกงก็ดูชิลทีเดียว
วันที่ 3
มาต่อกันวันที่สามด้วยอาหารมื้อเช้าเบาๆ ที่ร้าน Majesty Restaurant
เมนูอาหารคือ ฮะเก๋ากุ้งยอดผัก, ขนมจีบ, ขนมผักกาดทอด, ขนมทอดไส้เค็ม, ปอเปี๊ยะทอด, ขนมนึ่งแต้จิ๋ว,โจ๊กไข่เยี่ยวม้า บอกตรงๆว่าเช้านี้ทานอะไรไม่ค่อยได้ เพราะว่าเมื่อคืนดื่มหนักนอนดึก กินได้แต่โจ๊กกับซาลาเปาลูกเดียว นอกนั้นได้แต่ดูเพื่อนร่วมทริปกิน เสร็จจากนี้ก็ไปเดินเล่นหากาแฟดื่มแยกย้ายเดินช้อป สายๆเราจะไปดิสนีย์แลนด์
ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์
ยังมีความทรงจำแสนวิเศษอีกมากมายรออยู่ ที่นี้เที่ยวได้ทั้งวันไปจนเกือบสองทุ่มครึ่ง เหมาะกับทุกคนในครอบครัว ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์มีหลายโซนเป็นดินแดนชวนฝันหลงออยู่ในนั้นได้ไม่รุ้เบื่อ ขอเตรียมรองเท้าที่เหมาะกับการเดิน เราขอโพสต์รูปที่ไปเที่ยวมากับบอกชื่อโซนนะคะ เพราะถ้าไปจริงๆขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวว่าชอบตัวการ์ตูนไหนเป็นพิเศษ อย่างเช่น เมนสตรีท ยูเอสเอ, แฟนตาซีแลนด์, แอดเวนเจอร์แลนด์ และทูมอโรว์แลนด์ การแสดงช่วงเช้ามี ขบวนพาเหรด Flights of Fantasy ธีมขบวนงานฉลองสุดเหวี่ยง นำโดยเหล่าตัวการ์ตูนดิสนีย์ที่คุณชื่นชอบร้องรำทำเพลงไปตามถนน Main Street USA Mickey’s PhilharMagic
ดินแดนแห่งใหม่เฉพาะที่ฮ่องกง ดิสนีย์แลนด์ เป็นเหมือนบ้าน นักสำรวจสิ่งแปลกประหลาด เครื่องเล่น สิ่งประดิษฐ์รวบรวมมาจากทั่วโลก ที่มิสติค พอยท์ จะมีเซอร์ไฟร์ให้ตกใจเล่นเล็กน้อย ชอบตรงที่นั่งรถเข้าไปเลื่อนหมุนอัตโนมัติ
ทอยสตอรี่แลนด์
ทอยสตอรี่แลนด์ อาณาจักรความสนุกล่าสุดของฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ สำรวจสนามหลังบ้านของแอนดี้ที่เต็มไปด้วยของเล่นชิ้นเล็กๆ แต่กลับมีขนาดใหญ่โตจนราวกับเราตัวเล็กนิดเดียว
พอดูพลุเสร็จก็เป็นอันจบทริปเที่ยวฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ พากันเดินออกมาตามทางเดิน ออกมาจนถึงด้านนอกมีสถานีรถไฟฟ้าให้ขึ้นกลับบ้านเห็นชัดเดินตรงไปก็เจอสะดวกจริงๆอยากให้เชียงใหม่มีรถไฟฟ้า
ร้าน Fung Shing Restaurant
มื้อเย็นนี้มีเมนูเป็ดปักกิ่ง หนำเลี้ยบผัดหมูสับกับถั่วสี่ฤดู ซุปประจำวัน ผักผัดเห็ดรวมมิตร ปลาหมึกทอดพริกเกลือ ปลานึ่งซีอิ๊ว ตัวจะแตกแล้วค่ะอิ่มทุกมื้อที่มา
100SKY
ขึ้นไปชมวิวตึกที่สูงที่สุดในฮ่องกง และสูงเป็นอันอับ 7 ของโลก ตอนแรกรู้สึกเฉยๆมากที่จะขึ้นมาดูคิดว่าคงไม่มีอะไรน่าสนใจไปมากกว่าวิว ขึ้นลิฟท์จากชั้น1ไปถึงชั้น100 ใช้เวลาไม่นานเร็วมากเหมือนทะลุฟ้ามาตามท่อวิเศษ ลิฟท์นิ่งนุ่มไม่กระตุกเลย
City Chiu Chow Restaurant
ส่งท้ายมื้ออาหารที่ฮ่องกง มื้อนี้พิเศษกว่าใครๆเพราะกินห่าน หลังจากที่ลุ้นกันอยู่หลายมื้อว่ามาครั้งนี้จะได้หรือเปล่า จัดไปห่านพะโล้รวมมิตร เนื้อห่านแน่นเหนียวหน่อยเคี้ยวมันส์, ซุปสาหร่ายหมูสับ ผักกาดแก้วราดหอยสไลด์ เซเลอรี่ผัดรวมมิตร ปลา(ชิ้น)นึ่งเต้าซี่ก้างเยอะเวลากินต้องระวังหน่อย ไก่ทอดใบพริกสไตล์แต้จิ๋ว (ใบพริกทอดกรอบรสคล้ายใบกะเพราทอดใส่ไข่เยี่ยวม้า) ผัดผักตามฤดูกาลจานนี้กินตบท้ายช่วยให้หายเลี่ยนได้มาก
ก่อนได้เวลากลับเชียงใหม่ ขอแวะไปหาดูของช้อปปิ้งที่เอาท์เล็ต (เป็นสินค้าที่ตกเทรนด์ ลดราคาเยอะมาก) ห้างที่ว่าเป็นตึกสีทองๆ ย่านจิมซ่าจุ่ยหาไม่ยากเด่นสะดุดตา โดยพากันนั่งแท็กซี่ไปกัน ได้ของฝากติดมือกันไปคนละห้าหกอย่าง ทั้งของตัวเอง ของฝากเด็กๆ ขนมนมเนยฝากน้องๆที่ออฟฟิศ จัดแพ๊คลงกระเป๋าปิดรัดให้เรียบร้อยก่อนโหลดลงเครื่องบินกลับเชียงใหม่บ้านเฮา
ขอบคุณสายการบิน Hong Kong Express ผู้สนับสนุนทริปฮ่องกงแสนสนุกในครั้งนี้
ข้อดีของการไปเที่ยวกับไกด์ทัวร์
– ไม่ต้องใช้เวลาเดินทางมาก เพราะมีผู้ชำนาญเส้นทางคอยแนะนำ
– ได้ชิมอาหารแต่ละมื้อหลากหลาย
– ไม่เหนื่อยที่จะหลงทาง
– มีปัญหาระหว่างทาง ไกด์จะคอยช่วยเหลือ
– แนะนำแหล่งซื้อของที่ตรงกับความต้องการของเรา
– คอยเล่าเรื่องต่างๆไปเรื่อยๆ หว่างนั่งรถบัส อยากรู้อะไรสามารถสอบถามได้
นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวน่าสนใจเกียวกับเดินทางไปฮ่องกงด้วยสายการบิน HK Express คลิกเลย