จากภาคแรกที่เจ๋งพาบุกตะลุยดงแสงสีกันไปแล้ว (คลิกอ่านเพิ่มเติม) หลายท่านอาจจะคิดว่าฮ่องกงจะเป็นแค่เกาะคอนกรีตเล็กๆ แต่ท่านรู้หรือไม่ว่าที่นี่ยังคงมีป่าเขาลำเนาไพรที่อุดมสมบูรณ์และมีวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว น่าสนใจขนาดไหน ตามเจ๋งมาได้เลย!!
1. The Peak – ยิ่งสูง ยิ่งสวย
พิกัด : ฝั่งฮ่องกงราคา : ค่ารถบัสขึ้น-ลง 20 HK$เวลาเดินรถ : จ.-ศ. 10.00-23.00 น. ส.-อ. และวันหยุด 08.00-23.00 น.
จุดชมวิวสูงที่สุดในเกาะฮ่องกงที่จะได้เห็นมุม Top View ของเกาะฮ่องกงแบบพาโนราม่าต้องมาที่นี่ การเดินทางขึ้นมา มี 2 ช่องทางคือ รถราง (Peak Tram) และรถบัส ซึ่งเป้าหมายการเดินทางครั้งนี้เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตของฮ่องกงมากที่สุด เจ๋งจึงเลือกขึ้นรถบัส สาย 15 ขึ้นรถบริเวณ Exchange Square MTR สถานี Central ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 30 นาที สามารถขึ้นและลงระหว่างทางได้
บรรยากาศระหว่างทางขึ้นมาก็สนุกสนานสมใจ เพราะคนขับทั้งซิ่ง ทั้งเหวี่ยง กว่าจะมาถึงก็เรียกได้ว่าเล่นแทบอ้วกไปหลายรอบ เนื่องจากถนนหนทางค่อนข้างคดเคี้ยวบวกกับผู้โดยสารที่บรรทุกมาเต็มคันรถ จึงแทบไม่มีที่หายใจ แต่เมื่อขึ้นมาถึงกลับเหมือนอยู่อีกโลก เพราะวิวที่นี่สวยจนอยากหยุดเวลาไว้จริงๆ
ด้านบนมี Peak Tower อาคารทรงแปลกตาคล้ายเรือขนาดใหญ่ ด้านในมีทั้งร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ชั้นดาดฟ้า Sky Terrace 428 สามารถมองเห็นวิวของฮ่องกงได้ทั้งเมือง โดยเฉพาะช่วงเย็นยิ่งสวย ส่วนชั้นล่างเป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งของ Madame Tussauds พร้อมกับเหล่าคนดังระดับโลก เช่น บารัค โอบาม่า, เจ้าหญิงไดอาน่า, เลดี้ กาก้า, อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ฯลฯ พร้อมโชว์หุ่นในอากัปกิริยาต่างๆให้ท่านได้แชะภาพแบบใกล้ชิด
แต่ถ้าหากไม่อยากขึ้นไปบน Peak Tower แนะนำให้อ้อมไปเส้นทางศึกษาธรรมชาติด้านหลังหรือเก๋งจีนด้านข้าง Peak Tower ก็สามารถเห็นวิวสวยๆของเกาะฮ่องกงได้เช่นกัน
2. Mongkok Hotel – ห้องแคบแทบตกเตียง
พิกัด : ตึก Sincere House ถนน Argyle ย่านมงก๊ก ฝั่งเกาลูนราคา : 236 HK$ / คืน
หลังจากที่เที่ยว The Peak กันจนเพลิน ก็ขึ้นรถไฟฟ้ามาสถานี Mong Kok เพื่อ Check – in เข้าที่พักกันสักหน่อย ครั้งนี้เจ๋งเลือกจองผ่าน www.airbnb.com เช่นเคย เพราะอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า MTR มงก๊ก จึงเดินทางสะดวกสบาย แต่ตึกค่อนข้างเก่าไปนิดจึงดูน่ากลัวสักหน่อย เมื่อเข้าไปในห้องสามารถอยู่ได้สบายแต่ต้องทำใจสักหน่อยเพราะห้องแคบมาก ซึ่งในฮ่องกงถือว่าเป็นเรื่องปกติของห้องพักในราคานี้ ส่วนสิ่งอำนวยสะดวกในห้องมีทั้งผ้าห่ม หมอน แอร์ โทรทัศน์ อินเตอร์เน็ต แชมพูและห้องน้ำ ส่วนกาต้มน้ำและไดร์เป่าผม มีบริการให้ใช้ร่วมกันด้านนอก โดยรวมคะแนนเต็ม 10 ให้ 6
3. Seaview Congee –
โจ๊กรสชาติดีต้องกินคู่ปาท่องโก๋
พิกัด : ถนน Argyle ย่านมงก๊กราคา : โจ๊ก 28 HK$ / ปาท่องโก๋ 9 HK$เวลาเปิด – ปิด : เปิด 24 ชั่วโมง
เดินจากโรงแรมเลี้ยวซ้ายผ่านร้าน 7-ELEVEN มาเพียง 5 เมตร มีร้านโจ๊กขวัญใจคนไทยชื่อ Seaview Congee เป็นร้านโจ๊กเนื้อเนียนนุ่มลิ้นรสชาติดีพร้อมปาท่องโก๋ตัวใหญ่ยักษ์ท่ามกลางห้องแอร์เย็นฉ่ำ ราคาโจ๊กเริ่มต้นชามละ 28 HK$ ส่วนปาท่องโก๋ ราคา 9 HK$ สั่งมาทานคู่กันอร่อยลงตัว แนะนำ โจ๊กไข่เยี่ยวม้า และเนื่องจากที่นี่มีนักท่องเที่ยวไทยแวะเวียนมานั่งทานอยู่เป็นประจำ พนักงานบางคนจึงพูดไทยได้ สะดวกสบายสุดๆ
4. ปิ้งย่างข้างทาง – อร่อยจนจำทางกลับไม่ได้
พิกัด : ด้านหน้าตึก Sincere House ถนน Argyle ย่านมงก๊กราคา : เริ่มต้นไม้ละ 10-12 HK$
อาหารข้างทางที่ค่อนข้างเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับคนฮ่องกงต้องยกให้ ลูกชิ้นแกง เป็นลูกชิ้นต้มในหม้อพริกแกงคล้ายแกงกระหรี่ และนอกจากนี้ยังมีจำพวกปลาหมึก ไส้ ลูกชิ้น ไส้กรอก ราคาไม้ละ 10-12 HK$ รสชาติคล้ายของปิ้งย่างบ้านเรา มีจำหน่ายตามร้านข้างทางของทุกหัวมุมเมืองในฮ่องกง ยิ่งทานช่วงหนาวๆยิ่งอร่อย
5. Ladies’ Markets –
สวรรค์คุณผู้หญิงเด็ดจริงหญิงฮ่องกง
พิกัด : ถนน Tung Choi ย่านมงก๊กเวลาเปิด – ปิด : 13.00-22.00 น.
เดินขึ้นมาทิศเหนือของที่พัก จะเจอถนน Tung Choi ซึ่งเป็นแหล่งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าผู้หญฺิงหลากหลายสไตล์ มีให้เลือกหลากหลายวัยตั้งแต่เด็กเล็กจนวัยผู้ใหญ่ในราคาสบายกระเป๋า (แต่ต้องต่อราคาเองนะ เพราะแม่ค้าพ่อค้าจะเพิ่มราคาขึ้นมาหลายเท่าหากรู้ว่าเราเป็นนักท่องเที่ยว) ของที่ขายโดยรวมคุณภาพคล้ายกับของในตลาดนัดของถมบ้านเรา แต่ถ้าหากอยากได้ของคุณภาพ แนะนำไป Outlets คุ้มค่ากว่า แต่ถ้าหากชอบแนวนี้ เดินดูเรื่อยๆก็เพลินตาไม่น้อย แนะนำให้มาช่วงเย็นจะเดินได้นานกว่า เพราะไม่ร้อนมาก
6. ถนนสายกีฬา – ลดราคามากจริงๆ
พิกัด : ถนน Fa Yuen ย่านมงก๊กเวลาเปิด – ปิด : 11.00-22.00 น.
เดินเยื้องไปอีกนิด จะเจอถนน Fa Yuen ถนนสายกีฬาที่นักกีฬาไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะย่านนี้มีร้านขายอุปกรณ์ เสื้อผ้า รองเท้ากีฬาหลากหลายแบรนด์ดังไม่ว่าจะเป็น Nike, Adidas, Converse, New Balance ฯลฯ เปิดขายช้อปติดช้อป และที่สำคัญลดกระหน่ำซัมเมอร์เซล์จริงๆ บางรุ่นถูกกว่าเมืองไทยหลายพันบาท และที่สำคัญมีหลากหลายรุ่น หลากหลายสีให้เลือกจนละลานตาไปหมด
7. Sasa, Bonjour, Color Mix –
เครื่องสำอางหลากหลายในราคาสบายกระเป๋า
พิกัด : ย่านมงก๊กและทั่วเกาะฮ่องกงเวลาเปิด – ปิด : 11.00-22.00 น.
มาถึงฮ่องกงทั้งทีสิ่งที่จะต้องมีติดไม้ติดมือไปฝากคือ เครื่องสำอาง แน่นอนว่า 3 เจ้ายักษ์ใหญ่ที่ไม่ควรพลาดคือ Sasa, Bonjour, Color Mix เพราะมีเครื่องสำอางให้เลือกหลายแบรนด์ตั้งแต่แบรนด์บ้านๆไปจนถึงแบรนด์ระดับไฮโซ
หากใครที่อยากได้ของดีที่สุด แนะนำให้เดินเปรียบเทียบราคากับสาขาอื่นๆก่อน เพราะของแต่ละร้านแต่ละสาขา สินค้าชนิดเดียวกันแต่ราคาไม่เท่ากัน โดยส่วนตัวแนะนำ Bonjour เพราะเครื่องสำอางเยอะและถูกกว่า เครื่องสำอางของไทยก็มีวางแต่เมื่อเทียบกับราคาในเมืองไทยแล้วถือว่าแพงมาก แนะนำ ลิปไข่ EOS เป็นลิปมัน มีหลากหลายกลิ่นให้เลือก ราคา 27 HK$ แต่ใช้ได้นานเกือบปี
8. พระใหญ่หมู่บ้านหนองปิง
– แอบอิงธรรมชาติ
พิกัด : เกาะลันเตาราคา : กระเช้าธรรมดา 135 HK$ กระเช้าแบบใส 213 HK$เวลาเปิด – ปิด : จ.-ศ. 10:00-18:00 น., ส.-อา. 09:00-18:30 น.
หลังจากที่เดินย่านมงก๊กจนเพลิน ก็ขอไปสนุกกันต่อที่หมู่บ้านหนองปิง เดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน จากสถานี Mong Kok ขึ้นไปทางทิศเหนือ จากนั้นเปลี่ยนสถานีที่ Lai King เป็นรถไฟฟ้าสายสีส้มจนไปสิ้นสุดที่สถานี Tung Chung ออกประตูทางออก B รวมระยะเวลา 33 นาที ค่าโดยสาร 16.5 HK$ โดยตลอดสองข้างทางเราจะสัมผัสความงามของวิวเกาะฮ่องกงได้ไกลสุดลูกหูลูกตา
หนองปิง หมู่บ้านที่มีชื่อเสียงอย่างมากถึงแรงศรัทธาของชาวพุทธ เพราะมีพระพุทธรูป Tian Tan ขนาดใหญ่ วัดโปหลินที่มีชื่อเสียงเรื่องของเจ้าแม่กวนอิมอันศักดิ์สิทธิ์ ในแต่ละปีจึงมีนักท่องเที่ยวชาวไทยไปเยือนมากเป็นพิเศษ การมาที่นี่มาได้ 2 ทางคือ ขึ้นรถประจำทางสาย 23 ผ่านหนทางที่คดเคี้ยว ใช้ระยะทางกว่า 45 นาที และนั่งกระเช้าระยะทาง 5.7 กิโลเมตร ระยะเวลาเพียง 25 นาที สะดวกสบายมาก แต่การขึ้นกระเช้าจะช้าในกระบวนการซื้อตั๋ว หากไม่อยากต่อคิวแนะนำให้ซื้อจาก Agent ที่เมืองไทยหรือจองผ่าน www.np360.com.hk ก็สะดวกสบายไม่น้อย
พระพุทธรูป Tian Tan ทำจากทองสัมฤทธิ์ มีความสูงกว่า 34 เมตร ดังนั้นการจะขึ้นไปนมัสการองค์พระต้องขึ้นบันไดกว่า 268 ขั้น เล่นเหนื่อยเอาการเหมือนกันสำหรับผู้สูงอายุ เมื่อขึ้นไปถึงแล้วจะต้องตกตะลึงกับทัศนียภาพของที่นี่ เพราะมีความสวยงามมากจริงๆ ด้านหน้าเป็นภูเขา ด้านหลังเป็นทะเล ลมพัดผ่านตลอดและใต้ฐานมีพิพิธภัณฑ์ห้องจัดแสดง 3 ห้องคือ ภาพวาดสีน้ำมันเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของพระพุทธเจ้า วงล้อพระพุทธธรรมและพระบรมสารีริกธาตุ
นอกจากนี้ด้านหลังยังมีเส้นทางเดินป่าระยะใกล้ เพื่อเข้ามาชม The Wisdom Path หรือเส้นทางปรัชญา เป็นเสาไม้จำนวน 38 ต้น ปักเป็นเลข 8 สื่อถึงความไม่สิ้นสุด พร้อมทั้งสลักจารึกอักษรจีนเป็นบทสวดนิกายมหายาน จึงกลายเป็นอีกหนึ่งมุมถ่ายรูปยอดฮิตของนักท่องเที่ยวไปโดยปริยาย
9. City Gate Outlets – ถูกกว่านี้ก็ฟรีละจ้า
พิกัด : เกาะลันเตาเวลาเปิด – ปิด : จ.-ศ. 10:00-22:00 น. ทุกวัน
ก่อนจะกลับไปที่สถานี Tung Chung สังเกตุว่าจะมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปคือ City Gate Outlets เป็นสรวงสวรรค์ของคนที่รักการช้อปปิ้ง เพราะมีทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าแบรนด์เนมที่ตกรุ่นแล้วนำมาลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์แบบสุดๆ ด้วยเหตุนี้ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของนักท่องเที่ยวที่จะเตรียมกระเป๋ามาคนละใบสองใบเพื่อแพ็กเสื้อผ้าก่อนกลับบ้านเมืองของตน
สินค้ามีให้เลือกหลากหลายร้อยแบรนด์ไม่ว่าจะเป็น Nike, Adidas, New Balance, Lee, Puma ฯลฯ แต่แบรนด์ที่ไม่ควรพลาดคือ Esprit และ Giordano เพราะมีเสื้อผ้าหลากหลายแบบในราคาสบายกระเป๋า
คนที่หิวสามารถแวะไปทานข้าวได้ที่ Food Republic ชั้น 2 มีอาหารนานาชาติหลากหลายร้านให้เลือกรวมถึงอาหารไทยด้วย
10. สนามบินนานาชาติฮ่องกง
พิกัด : พื้นที่ถมทะเลใหม่ เกาะลันเตา
ก่อนกลับสนามบินสามารถขึ้นรถเมล์ S1 จาก City Gate Outlets มาที่สนามบินได้ โดยใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 15 นาที ค่าโดยสาร 4 HK$ สะดวกสบาย มีรถวิ่งตลอด จากนั้นก็มา Check-in เพื่อเตรียมตัวบินตรงกลับเชียงใหม่กับสายการบิน HK EXpress สะดวกสบายขนาดนี้ไม่มีอีกแล้ว
นอกจากนี้ยังมีทริปเที่ยวในฮ่องกงโดยเดินทางกับสายการบิน HK Express จะน่าสนใจขนาดไหน คลิกเลย
เรียกได้ว่าเป็นทริปการเดินทางฮ่องกงภาค 2 ระยะเวลาสั้นๆ ที่เน้นเที่ยวได้จริง ท่านใดมีแหล่งกินเที่ยวที่น่าสนใจในฮ่องกง แนะนำเจ๋งเข้ามาได้ อย่าลืมแวะมา Comment มาแชร์ให้เจ๋งได้รู้ตามช่องด้านล่างหรือ
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –
หมุดสีแดงคือ ที่เที่ยว หมุดสีฟ้าคือ ที่กิน หมุดสีเขียว คือ ที่พัก หมุดสีเหลืองคือ ย่าน